สังคม
ดีเอสไอขยายผลรวบ 3 ผู้ต้องหา ขบวนการหลอกทำบัตรประชาชนปลอม
โดย panisa_p
12 ก.พ. 2567
68 views
กรมสอบสวนคดีพิเศษ จับเจ้าของบัญชีธนาคาร 3 คน ที่ว่าจ้างให้บุคคลอื่นเปิดบัญชีม้ามากกว่า 200 บัญชี เพื่อนำไปใช้เป็นเครื่องมือรับโอนเงินที่ได้ จากการหลอกลวงในคดีอื่นๆ อีกหลายคดี กลายเป็นอาชญากรรมออนไลน์ที่รุนแรงขึ้น โดยเฉพาะกรณีนี้ ที่สร้างเพจเฟซบุ๊กปลอมขึ้นมาอ้างว่า สามารถทำบัตรประชาชนปลอมให้ได้ ขณะรองอธิบดีกรมการปกครองเตือนว่าอย่าหลงเชื่อใครก็ตามที่อ้างว่า สามารถทำบัตรประชาชนให้ได้ โดยไม่ต้องไปแสดงตัวต่อหน้าเจ้าหน้าที่ เพราะถือเป็นการหลอกลวงทั้งสิ้น
นี่คือหน้าตาของเพจเฟซบุ๊กปลอมที่ใช้ชื่อว่า" เปิดรับลงทะเบียนสิทธิ์ทำบัตร" และเฟซบุ๊ก ชื่อว่า "รับสิทธิ์ลงทะเบียน" ซึ่งเพจปลอมเหล่านี้ลงข้อความพร้อมรูปภาพ โฆษณารับทำบัตรประชาชน โดยตัดต่อภาพปลัดกระทรวงมหาดไทยและข้าราชการระดับสูงมาแอบอ้างอย่างผิดกฎหมาย
กรมการปกครองพบว่ามีผู้หลงเชื่อจำนวนมาก โดยเฉพาะคนต่างด้าวในประเทศไทย ที่โอนเงินเข้าบัญชีคนกลุ่มนี้ ครั้งละ 5-7 หมื่นบาท รวมนับล้านบาท และถึงที่สุด ก็ไม่ได้ เอกสาร และต่อให้มีเอกสารก็เป็นของปลอม ที่นำไปใช้ก่อคดีอื่นๆ เช่น หลอกเช่าซื้อรถแล้วนำไปขาย หรือหลอกขายของออนไล์แต่ไม่มีสินค้าส่งให้จริง
กรมการปกครองร้องให้ดีเอสไอติดตามตรวจสอบเป็นคดีพิเศษ โดยจับผู้ต้องหาคนสำคัญได้ 3 คนเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา คือนายสิปปกร นายพลกร และนางยิน วิน ติน ชาวเมียนมา เมื่อขยายผลต่อก็พบว่ายังมีเครือข่ายอีกหลายคน
กระทั่งวันที่ 8 ที่ผ่านมา ดีเอสไอ ร่วมกับกรมการปกครองและตำรวจท้องที่บุกจับผู้เกี่ยวข้องในขบวนการนี้ได้อีก 3 คน คนแรกเป็นชายวัย 54 ปี ชื่อนายเหม ถูกควบคุมตัวได้ ที่อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ดีเอสไอพบว่า นายเหม เป็นเจ้าของบัญชีธนาคาร ที่จ่ายเงินให้กับผู้รับจ้างเปิดบัญชีม้า มากถึง 248 บัญชี โดยจ่ายค่าจ้างเปิดบัญชีละ 500 บาท และสัญญาว่าหากบัญชีที่เปิดถูกนำไปใช้ จะได้เงินอีก 5 พันบาท ซึ่งข้อตกลงว่าจะจ่ายเงินเพิ่มเป็นเพียงการหลอกลวงเท่านั้น
ผู้ต้องหาคนที่ 2 น คือนางสาววิมลณัฐ วัย19 ปี ที่อำเภอเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เป็นเจ้าของบัญชีธนาคาร ที่แก๊งทำบัตรประชาชนปลอม ใช้รับเงินจากผู้เสียหาย โดยเป็นบัญชีลำดับชั้นที่ 3 และคนที่ 3 คือนางสาววลีรัตน์ อายุ 27 ปี ชาวอ่างทอง เป็นเจ้าของบัญชีธนาคาร ที่แก๊งทำบัตรประชาชนปลอมใช้รับเงินจากผู้เสียหาย ลำดับชั้นที่ 1 ซึ่งมีผู้หลงเชื่อโอนเงินจ้างให้ทำบัตรประชาชนปลอม โอนเงินเข้าบัญชีนางสาววลีรัตน์ นับล้านบาท
รองอธิบดีกรมการปกครอง ย้ำเตือนคนเหล่านี้เป็นเพียงเครือข่ายหนึ่งของขบบวนการหลอกลวง เพราะการทำบัตรประชาชนที่ถูกต้อง ต้องไปแสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่เท่านั้น เช่นเดียวกับที่รองอธิบดีดีเอสไอ ระบุว่าผู้หลงเชื่อจ้างทำบัตรประชาชนปลอม ไม่เพียงแต่จะไม่ได้บัตรเท่านั้น ยังอาจถูกดำเนินคดีฐานส่งเสริม สนับสนุน ให้ผู้อื่นทำผิด และบัตรปลอมที่นำขึ้น ก็อาจถูกนำไปใช้ก่ออาชญากรรมออนไลน์อีกหลายประเภท
ข้อมูลที่ผู้อำนวยการกองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ เปิดเผยพบว่า เงินจากผู้หลงเชื่อทำบัตรประชาชน ถูกโอนเข้าบัญชีนายพลกร และนางสาววลีรัตน์ จากนั้นส่งต่อไป เข้าบัญชีนายสิปปกร ที่ถูกจับก่อนหน้านี้แล้ว เช่นเดียวกับเงินจากบัญชีนายเหม ก็เชื่อมโยงกับนายสิปปกร จากนั้นนายสิปปกร ก็ส่งเงินหมุนเวียน กับผู้ต้องหาอีก หลายคน ที่เป็นชาวเมียนมา เป็นเงินกว่า 151 ล้านบาท โดยเป็นเงินที่เกิดอาชญากรรมออนไลน์ทั้งนั้น
ตอนนี้ทั้ง 3 คน ถูกดำเนินคดีนำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ร่วมกันฉ้อโกง ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ฉ้อโกงประชา และสนับสนุนการฟอกเงินโดยใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่ืน ส่วนผู้ร่วมขบวนการคนอื่นๆ อยู่ระหว่างติดตามตัว
แท็กที่เกี่ยวข้อง ดีเอสไอ ,ผู้ต้องหา ,หลอกทำบัตร ,บัตรประชาชนปลอม ,หลอกทำบัตรประชาชนปลอม