พรุ่งนี้จับตาดูประชุมใหญ่ 'คดีตบทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว' จ่อออกหมายจับเพิ่ม 2 ราย

ความคืบหน้าเหตุเพลิงไหม้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในช่วงเย็นของวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ซึ่งต่อมาถูกตั้งข้อสังเกตว่า อาจจะเกี่ยวโยงกับ"คดีรีดทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว"ด้วยหรือไม่ ล่าสุด มีการเปิดเผยไทม์ไลน์เเละภาพจากกล้องวงปิดในอาคารที่เกิดเหตุ ส่วนสาเหตุ คาดว่าต้นเพลิง น่าจะมาจากหลอดไฟเพดานในห้องครัว ขณะที่นายไชยา พรหมมา รัฐมนตรีช่วยฯกระทรวงเกษตรฯ ชี้แจงเหตุไฟไหม้ห้องคณะทำงานอีกครั้ง เเละย้ำว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการเมือง เเละไม่จำเป็นต้องไปเผาบ้านตัวเอง" ยืนยัน ไม่มีเอกสารสำคัญได้รับความเสียหาย


ภาพจากกล้องวงจรปิดภายในอาคาร หน้าห้องที่เกิดเหตุ จะเห็นเหตุการณ์ตามลำดับเวลา ตั้งแต่ช่วงเช้าเวลาประมาณ 09.26 น. มีแม่บ้าน สวมเสื้อลายพราง กางเกงขาสั้น เดินเข้ามาเปิดห้อง ที่ิอยู่ในส่วนงานของนายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์


ต่อมาเวลา 10.06 น. เจ้าหน้าที่สำนักรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรฯ สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้น กางเกงขาสั้นสีครีม ได้เข้าไปในส่วนนี้ และมี รปภ. ที่พาช่างกำจัดปลวก เดินตามเข้าไป


-10.12 น. เจ้าหน้าที่สำนักรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรฯ เดินกลับออกมา แล้วปิดไฟในส่วนดังกล่าว ก่อนจะกดลิฟต์เเละกลับลงไป


-14.35 น. มีช่างแอร์จะมาล้างแอร์ แต่เข้าไปในส่วนนี้ไม่ได้ จึงเดินกลับ


กระทั่ง 18.01 น. ซึ่งเป็นช่วงเกิดเหตุ มีแสงไฟสว่างวาบขึ้นมา เเละต่อมาก็เริ่มมีกลุ่มควันฟุ้งออกมา


-18.20 น. รปภ.และเจ้าหน้าที่ ขึ้นมาดูจุดเกิดเหตุ และนำถังดับเพลิงเพื่อควบคุมสถานการณ์ ก่อนที่ไฟฟ้าบริเวณนี้จะดับลง และมีกลุ่มควันจำนวนมาก


-18.44 น. เจ้าหน้าที่ชุดดับเพลิง ได้นำอุปกรณ์เข้าดับเพลิงเข้ามา จนกระทั่งควบคุมสถานการณ์ได้


ทีมข่าวได้โทรศัพท์สอบถาม พลตำรวจโทไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ได้รับการเปิดเผยว่า จุดที่คาดว่าเป็นต้นเพลิงอยู่ที่ห้องครัว จุดนี้มีเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายอย่าง และมีหลอดไฟที่ติดบนเพดาน ซึ่งเป็นจุดที่มีการเผาไหม้โดยสมบูรณ์แบบ จากการตรวจสอบ พบว่า สายไฟบริเวณนั้นไหม้จนหลอมละลาย ปูนไหม้จนเกิดการกะเทาะ จึงยืนยันได้ว่าจุดนี้เป็นต้นเพลิง เเละคาดว่าเกิดจากระบบไฟฟ้าจุดใดจุดหนึ่งในบริเวณดังกล่าว ส่วนพยานแวดล้อมอื่น ๆ เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน


พลตำรวจโทไตรรงค์ ระบุเพิ่มเติมว่า จากการรวบรวมพยานหลักฐานและสอบปากคำพ่อบ้านของกระทรวงฯ ที่อยู่ในวันเกิดเหตุ ยืนยันว่า ได้เข้ามาที่กระทรวงฯในช่วงเช้า แต่ช่างแอร์ไม่มา เลยล็อกห้องและออกไป ส่วนช่างฉีดปลวกที่เข้ามา ก็ไม่ได้เข้าไปฉีดในห้อง ฉีดเพียงเเค่ด้านหน้า และเมื่อช่างแอร์มาถึงก็เข้าห้องไม่ได้ จึงไม่ได้ล้างแอร์ เพราะฉะนั้นในวันเกิดเหตุ จึงไม่มีใครเข้าไปในห้อง


นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พูดถึงความคืบหน้าเหตุไฟไหม้ห้องคณะทำงาน โดยบอกว่า เมื่อวานนี้ได้เข้าไปที่เกิดเหตุ พร้อมกับ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีฯกระทรวงเกษตรฯ หลังได้รับอนุญาตจากกองพิสูจน์หลักฐาน โดยมีการสำรวจความเสียหายบริเวณห้องทำงาน พบว่าห้องที่มีการเผาไหม้ เเละเสียหายอย่างหนัก อยู่ที่ห้องครัว ซึ่งน่าจะเกิดความเสียหายจากการขัดข้องของระบบไฟฟ้าตรงปลั๊กไฟที่เสียบคาอยู่ เพราะบริเวณนั้น รวมไปถึงบริเวณผ้าม่านและฝ้าผนังมีความเสียหายจำนวนมาก


ขณะที่ห้องทำงานที่ปรึกษา ก็ได้รับความเสียหายบางส่วน แต่ไม่มีเอกสารสำคัญอยู่ที่นั่น จึงขออย่าโยงเป็นประเด็นการเมือง ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปเผาบ้านตัวเอง พร้อมยืนยันว่า ไม่มีเอกสารสำคัญได้รับความเสียหาย เพราะส่วนใหญ่เก็บอยู่ในระบบอิเล็กทรอนิกส์หมดแล้ว


ส่วนความคืบหน้า การสืบสวนสอบสวนขยายผลในคดีที่ "นายศรีสุวรรณ จรรยา" กับพวก ถูกกล่าวหา ร่วมกันรีดเงิน"นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว 1 ล้าน 5 แสนบาท ซึ่งก่อนหน้านี้ พลตำรวจตรีจรูญเกรียติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ยืนยันว่า เตรียมจะออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการอีก 1-2 คน หลังจากนี้


ความเคลื่อนไหว ที่กองบังคับการปปป. พบว่าชุดทำงานในคดีนี้ ยังคงเร่งรวบรวมและตรวจสอบหลักฐานทางคดี เนื่องจากในช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้ จะมีการประชุมร่วมกันหลายหน่วยงาน เพื่อรับทราบความคืบหน้า และขยายผลไปถึงวงอื่น ๆ ที่เกิดความเสียหายจากผู้ต้องหากลุ่มนี้


พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ เปิดเผยว่า ตอนนี้ได้ผู้ต้องหาคนสำคัญแล้ว 4 ราย คือ นายศรีสุวรรณ  นายยศวริศ หรือ 'เจ๋ง ดอกจิก'  นางสาวพิมณัฏฐา และนายเอกลักษณ์ วารีชล


แต่พนักงานสอบสวน จะต้องเรียกพยานทั้ง 2 คน คือ 'นายโอ' และ 'นาย ก.' ซึ่งเป็นข้าราชการในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยพบว่ามีความสนิทสนม คอยให้ข้อมูลกับ"นายเอก"เข้ามาสอบปากคำ ซึ่งจะเป็นการคุยแบบส่วนตัว ส่วนทั้ง 2 คน จะให้ความร่วมมือแค่ไหนและทิศทางเป็นอย่างไร จะมีการประเมินอีกครั้ง


จากแนวทางการสืบสวนรายชื่อพยานทั้ง 2 คน อยู่ในข้อมูลของตำรวจอยู่แล้ว แต่ก็ต้องสอบถามเจ้าตัวและสืบสวนจากพยานหลักฐานว่า ทั้ง 2 คนนี้ มีส่วนได้ส่วนเสียเกี่ยวกับการตบทรัพย์อย่างไรหรือไม่