เปิดปฏิบัติการ กวาดล้างผู้ค้ายาเสพติดรายย่อยในอีสานเหนือ ตัดวงจรระบาดในชุมชน

ปฏิบัติการไล่ล่า (เด็ดปีก) นักค้าอีสานเหนือ : No place for drug ใช้เฮลิคอปเตอร์นำกำลัง หน่วยปฏิบัติการพิเศษภาค4 โรยตัวลงมาสนที่กำลัง กับหน่วยปฏิการพิเศษจ.กาฬสินธุ์ เพื่อเข้าปิดล้อมบ้านเป้าหมายใน จ.กาฬสินธุ์



เมื่อไม่มีเสียงตอบรับเจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์ปีนเข้าไป โดยผู้ต้องหารายนี้ ถูกซัดทอดจากผู้ค้ารายย่อยที่ถูกจับ 5 เม็ดเมื่อปลายปีที่แล้ว ตำรวจสืบสวนภาค4 ใช้เวลาสืบสวน1 เดือนเพื่อตัดวงจรผู้ค้าสำคัญในพื้นที่ จนนำไปสู่การยึดทรัพย์ ตรวจค้นบ้าน โดยที่หน้าบ้านเขียนว่าเสธเอ็ม ห้ามเข้ายยามวิกาล พล ต ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผู้บัญชาการตำรวจภาค 4 สอบถามเบื่องต้น นายเอ็มให้การปฏิเสธ



โดยปฏิบัติการครั้งนี้ยึดหลักการ "ทำลายเครือข่ายไม่ให้นักค้ามีที่ยืนในพื้นที่ ดำเนินการเชิงรุกในการปราบปรามนักค้ายาเสพติดรายย่อยที่กระทบต่อชุมชนโดยตรง



ส่วนญาตินายเอ็มตกใจที่ถูกยึดทรัพย์ทั้งบ้านที่ดิน รถยนต์ โดยไม่ทราบนายเอ็มไปเกี่ยวข้องตอนไหน แต่เห็นชอบพนันบั้งไฟ



ปฏิบัติการครั้งนี้ ร่วมกับฝ่ายปกครอง กองทัพภาคที่ 2 สาธารณสุข องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ปปส ได้ดำเนินการมาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2566 โดยทุกพื้นที่ในสังกัด ภ. 4 ทั้ง 252 สถานีดำเนินการปูพรม จากผู้เสพ5เม็ด 10เม็ดนำไปสู่ผู้ค้ารายย่อย



ปฏิบัติครั้งนี้ ออกหมายจับนักค้าจำนวน 381 คน จับกุมนักค้าได้ถึง 309 ราย โดยยึดทรัพย์ทุกรายมลค่าร่วมกว่า170 ล้าน บาท



ที่ผ่านมา ภาคอีสานเป็นทางผ่าน ของยาเสพติด จนประเทศเป็นพื้นที่ระวังพิเศษในจ นครพนม แต่เนื่องจากมีการนำเข้ามาทางแม่น้ำโขงได้ง่ายเพราะมีระยะทางยาว ทำให้เป็นช่องทางน้ำเข้าและการระบาดในชุมชนสูง การตัดวงจรด้วยการยึดทรัพย์ ผู้ค้ายาในชุมชนลดลง