ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ ตร.สภ.ป่าติ้ว พาสาวม.5 ขืนใจ อุกอาจ พบใกล้โรงพักเพียง 100 ม.

เหตุการณ์สะเทือนใจในวงการตำรวจ ที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นได้ เมื่อเพจสายไหมต้องรอด โพสต์ข้อความทางเพจว่า นักเรียนหญิงชั้น ม.5 ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปโรงเรียนกับน้อง แต่ถูกตำรวจเรียกตรวจและเมื่อพบว่าไม่มีใบขับขี่ก็ปรับ 2 พันบาท เด็กนักเรียนไม่มีเงินค่าปรับ ตำรวจนายนี้จึงพาเด็กไปล่วงละเมิด เรื่องนี้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงทันที และพบว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง โดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งให้ออกจากราชการ และดำเนินคดีเด็ดขาด



แม่ของนักเรียนหญิงชั้น ม.5 ถ่ายคลิปขอความช่วยเหลือไปที่เพจสายไหมต้องรอด แจ้งว่าเช้าวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา ลูกสาวขี่รถจักรยานยนต์ไปโรงเรียนกับน้องสาว แต่เจอ ด่านตรวจตำรวจที่กระจายกันอยู่ ระหว่างนั้นลูกสาว ถูกตำรวจเรียกตรวจแต่ไม่มีใบขับขี่และไม่สวมหมวกกันน็อก จึงถูกเรียกปรับ 2 พันบาท แต่ลูกสาวบอกว่าไม่มีจึงโทรศัพท์ หาแม่ แต่แม่ไม่ได้รับสาย ตำรวจนายนั้น จึงให้ลูกสาวตามตำรวจไปที่ห้องพักแห่งหนึ่ง อยู่ระหว่างที่ว่าการอำเภอ กับสถานีตำรวจ จากนั้นก็ล่วงละเมิด ซึ่งแม่เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงร้องเรียนเรื่องนี้



หลังจากประเด็นนี้ถูกเปิดเผย จึงมีการตรวจสอบเรื่องนี้และพบว่ามีมูลความจริง โดยผู้ก่อเหตุเป็นตำรวจ ยศร้อยตำรวจเอก ตำแหน่งรองสารวัตร ของ สภ.ป่าติ้ว จึงถูกสั่งให้ออก จากราชการไว้ก่อน และตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย



ขณะที่พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งด่วนให้ พลตำรวจโท ฐากูร นัทธีศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อขยายผลดำเนินการกับผู้ที่เกี่ยวของทุกราย



ตอนนี้ตำรวจที่ก่อเหตุ เบื้องต้น ถูกแจ้งข้อหา พรากผู้เยาว์ อายุเกินกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี ไปเพื่อการอนาจาร / ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น โดยใช้กำลังขู่เข็ญ โดยใช้กำลังประทุษร้าย จากนั้นจะส่งไปฝากขัง ที่ศาลจังหวัดยโสธร วันนี้ พร้อมให้ออกจากราชการไว้ก่อน เพราะผิดอาญา และตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง ทั้งนี้ขอแสดงความเสียใจกับน้อง และครอบครัวด้วย รับปากว่า จะดำเนินการกับตำรวจที่กระผิดขั้นเด็ดขาด



ส่วนความเคลื่อนไหวที่ยโสธร ล่าสุด ตำรวจแจ้ง 2 ข้อหาหนัก กับรองสารวัตรจราจร สภ.ป่าติ้ว กระทำผิดฐานพรากผู้เยาว์-บังคับล่วงละเมิด รองผู้บังคับการตำรวจภูธณจังหวัดยโสธร ยืนยันจะดำเนินการขั้นเด็ดขาด ทั้งวินัยเเละอาญา ข่าว 3 มิติ ส่งทีมข่าวลงพื้นที่ พบว่าจุดเกิดเหตุอยู่ห่างจากโรงพักเพียง 200 เมตรเท่านั้น ติดตามกับคุณสถาพร ด่านขุนทด รายงานจากสภ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร



ความเคลื่อนไหวที่อ.ป่าติ้ว ช่วงบ่ายวันนี้ พันตำรวจเอก สานิตย์ ไชยสถิตย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยโสธร ในฐานะโฆษกของตำรวจภูธรจังหวัด ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดยเปิดเผยว่า ข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ คือเมื่อวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา



ผู้ก่อเหตุเป็นตำรวจจราจร ยศร้อยตำรวยเอก ตำเเหน่งรองสารวัตร อายุ 50 ปี ราว 10 โมงเช้าเมื่อวาน ตำรวจนายนี้ได้ขี่รถออกตรวจบริการจราจรทั่วไป กระทั่งไปเจอน้องผู้เสียหายขี่จักรยานยนต์มาตามถนน จึงขี่แซงแล้วเรียกให้จอด พบว่าไม่สวมหมวกกันน็อก และไม่มีใบขับขี่ จากการสอบถามเบื้องต้น รองสารวัตรจราจร ยอมรับว่า ได้พาน้องไปจริง



ซึ่งผู้เสียหาย ได้มาแจ้งความเมื่อวานนี้ ทางตำรวจก็ได้รับร้องทุกข์ไว้ พร้อมส่งไปตรวจร่ายกาย เเละวันนี้แม่ของผู้เสียหายเดินทางมาจากกรุงเทพฯ เข้าให้ปากคำกับตำรวจ สภ.ป่าติ้ว ส่วนผู้เสียหาย เข้าให้ปากคำกับทีมสหวิชาชีพ ในอำเภอเมืองยโสธร



สำหรับตำรวจที่ก่อเหตุ เบื้องต้น ถูกแจ้ง 2 ข้อหา ฐานพรากผู้เยาว์ อายุเกินกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี ไปเพื่อการอนาจาร ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น โดยใช้กำลังขู่เข็ญ โดยใช้กำลังประทุษร้าย จากนั้นจะส่งไปฝากขังที่ศาลจังหวัดยโสธร



พร้อมให้ออกจากราชการไว้ก่อน เพราะผิดอาญา และตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง ยืนยันจะดำเนินการกับตำรวจที่กระผิดขั้นเด็ดขาด ไปฟังเสียงของรองผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดยโสธร



ถ้าดูจากเเผนผังกูเกิลเเมพ ท่านผู้ชมจะเห็นว่า จุดที่น้องถูกกระทำ ห่างจากสภ.ป่าติ้ว ประมาณ 200 เมตรเท่านั้นเอง รอบ ๆ บริเวณเป็นที่ตั้งของส่วนราชการ ด้านหลังติดกับกองร้อยอส. ด้านขวาติดที่ว่าการอำเภอ ตรง้ามเป็นโรงพยาบาล ทางซ้ายติดเทศบาล เเละถัดมานิดเดียวก็คือโรงพัก สภ.ป่าติ้ว



ประเด็นที่สังคมตั้งคำถามคือ ทำไมตำรวจรายนี้ ถึงได้กล้าทำ ทั้งที่อยู่ในชุดปฏิบัติงาน อยู่ในเวลาราชการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จุดเกิดเหตุเป็นสถานที่ราชการ



ข่าว 3 มิติ ได้พบกับครูเเละรักษาการ ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ หรือสกร.อ.ป่าติ้ว ทราบว่าเมื่อวานนี้ เหตุเกิดในช่วงประมาณ 10 โมงเช้า ที่เกิดเหตุเป็นห้องว่างเปล่าหลังสุด ที่อยู่ระหว่างให้ช่างเข้ามาปรับปรุงรีโนเวท ทำเป็นห้องเรียน ไม่มีสิ่งของใดนอกจากบันได กับเก้าอี้ 2 ตัว ปกติจะล็อคเเละใส่เเม่กุญเเจไว้ ประกอบกับช่วงเวลานั้น บุคลากรเกือบทั้งหมดออกไปเเข่งกีฬา ที่นี่จึงเหลือเพียงนักการภารโรง 1 คนที่คอยเฝ้า ซึ่งส่วนใหญ่จะคอยดูเเลอยู่ด้านหน้า



ภาพจากกล้องวงจรปิด หน้าสกร.ป่าติ้วที่เราได้มา จากภาพระบุวันที่ 29 มกราคม เวลา 10.25 น. ปรากฏภาพชายในชุดข้าราชการตำรวจ เดินนำหน้าเยาวชนหญิงใส่เสื้อคลุมสีเเดง กระโปรงนักเรียน ซึ่งในส่วนนี้เราขอสงวนภาพไม่ให้เห็นน้องผู้หญิง เเตาก็เห็นพฤติการณ์ได้ชัดเจนว่า ตำรวจเป็นคนเดินนำ ผ่านอาคารมุ่งไปตรงจุดเกิดเหตุ



ข้อสังเกตคือ จุดนี้ถ้าเป็นคนนอกหรือไม่เคยเข้ามา ก็จะไม่รู้ว่ามีห้องเเบบนี้อยู่ ซึ่งครูบอกกับเราว่า ก่อนหน้านี้ เคยมีการติดต่อ ให้ตำรวจจราจรมาร่วมเป็นวิทยากรบรรยาย จึงอาจเป็นไปได้ว่า ผู้ก่อเหตุน่าจะเคยเข้ามาเเละรู้ว่ามีห้องว่างที่ไม่ได้ใช้งานอยู่ด้านหลัง



อย่างที่รายงานไป รอบ ๆ เป็นที่ตั้งของส่วนราชการเเละใกล้โรงเรียน เเละจุดนี้ตามข้อมูลบอกว่า รองสารวัตรจราจร เเละตำรวจมักจะมายืนตั้งจุดตรวจ เเละปรับผู้ทีีทำผิดกฏจราจร ได้มีการติดป้าย สวมหมวกนิรภัย 100%



นอกจากคดีอาญา ฐานพรากผู้เยาว์เเละล่วงละเมิด ในส่วนการปฏบ้ติหน้าที่ ซึ่งถูกกล่าวหาว่า เรียกผู้เสียหายมาปรับ 2,000 บาท เเต่ที่สุดก็ไม่ได้ดำเนินการออกใบสั่งหรือปรับตามขั้นตอน เเละเลือกที่จะกระทำผิดร้ายเเรง จะโดนอาญาในมาตรา 157 เเละมาตราอื่น ๆ อีกหรือไม่ เเต่เบื้องต้นถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อนเเล้ว