'ศรีสุวรรณ-เจ๋งดอกจิก-พิมณัฏฐา' ปฏิเสธทุกข้อหาปมรีดเงิน ผบช.ก. ยันมีหลักฐานชัด

กรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา ที่ถูกจับกุมเมื่อวานนี้ หลังได้รับประกันตัวนายศรีสุวรรณ ยืนยันว่าสามารถหักล้างได้ทุกข้อกล่าวหา ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง มั่นใจในพยานหลักฐานของเจ้าหน้าที่



หลังถูกสอบปากคำนานเกือบ 9 ชั่วโมง และได้ประกันตัวด้วยเงินสด 4 แสนบาท นายศรีสุวรรณ จรรยา ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวทันทีว่าไม่ได้มีการเรียกรับเงินจากอธิบดีกรมการข้าว ส่วนที่โยนเงินจำนวน 500,000 บาททิ้งที่ข้างบ้าน เนื่องมาจาก ตนเองเห็นว่ามีใครก็ไม่รู้นำเงินมาแขวนไว้ ภรรยาตนเองซึ่งไม่รู้เรื่อง ได้นำเงินดังกล่าวมาให้ตนเองดู เมื่อเห็นว่าไม่ใช่เงินของตัวเองและเข้าข่ายน่าสงสัย จึงนำไปทิ้งเพื่อปัดให้พ้นตัวไปก่อน



ยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรู้สึกตกใจแต่ก็ไม่ทำให้เสียขวัญ และยังมีกำลังใจที่ดีอยู่ การที่ตนเองถูกดำเนินคดีครั้งนี้ถือเป็นเรื่องธรรมดา การทำหน้าที่ตรวจสอบการทุจริตก็เหมือนการเดินฝ่าฝน ต้องเปียกเป็นธรรมดา โดยคดีในวันนี้เชื่อว่ามาจากผู้ที่เสียผลประโยชน์ หนึ่งในนั้นคือผู้เสียหายในคดีนี้ ที่ตนเองกำลัง ได้แจ้งสื่อมวลชนว่ากำลังตรวจสอบอย่างเข้มข้น ทำให้เจ้าตัวอาจเกิดความหวาดวิตก พยายามหาหนทางที่จะล้มตนเองให้ได้ ซึ่งตนเองยืนยันว่ามีข้อมูลพยานหลักฐานทุกอย่าง ที่จะสามารถยืนยันหักล้างทุกอย่างในคดี



มีรายงานว่าการสอบสวนนายศรีสุวรรณนานเกือบ 9 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสอบปากคำในประเด็นต่างๆ มีการให้นายศรีสุวรรณชี้แจงภาพบริเวณจุดทิ้งถุงเงิน , โฉนดที่ดิน 5 แปลง เซิฟเวอร์คอมพิวเตอร์ รวมถึงของกลางที่ตรวจยึดมาได้จากที่บ้าน ก่อนแจ้งข้อหา สนับสนุนเจ้าพนักงานของรัฐเรียกรับทรัพย์หรือประโยชน์อื่นใด โดยมิชอบ, ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้ตนหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน, ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดหรือไม่กระทำการใดฯ ตามหมายจับ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง



ส่วนนายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก และนางสาวพิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ ได้รับการประกันตัว หลักทรัพย์เป็นเงินสด 4 แสนบาทเช่นกัน เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา โดยทั้งคู่ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาว่าไม่ได้มีการเรียกรับเงินจากอธิบดีกรมการข่าวแต่อย่างใด แต่ยอมรับว่าเคยเป็นตัวกลางประสานงานระหว่างนายศรีสุวรรณและอธิบดีกรมการข้าว เพราะทราบว่ามีการจะฟ้องร้องกัน แต่ไม่ได้มีการเรียกรับเงิน พร้อมต่อสู้คดี และในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ได้นัดหมายพนักงานสอบสวน เพื่อนำพยานหลักฐานไปมอบเพิ่มเติมด้วย



ด้าน พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง​ ยืนยันว่าตำรวจมีหลักฐานชัดเจนเกี่ยวกับพฤติกรรมและความสัมพันธ์ของ นายศรีสุวรรณ จรรยา, นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก และ น.ส.พิมณัฏฐา ผู้ต้องหาที่ร่วมกันรีดไถเงินอธิบดีกรมการข้าว โดยนายศรีสุวรรณและนายยศวริศ เคยร่วมกันแถลงข่าวหลายครั้ง ส่วนผู้ต้องหาหญิงเป็นเลขาส่วนตัวของ เจ๋ง ดอกจิก ส่วนรายละเอียดเรื่องเงินที่เรียกรับมาแล้วจำนวน 1.4 แสนบาท จะไปถึงทั้ง 3 ผู้ต้องหาหรือไม่ เบื้องต้นตำรวจมีพยานหลักฐานที่สามารถเสนอศาลจนศาลอนุมัติออกหมายจับ



โดยมีหลักฐานทั้งเส้นทางการเงินและคลิปเสียงและภาพถ่ายขณะร่วมกันตบทรัพย์ผู้เสียหาย โดยร่วมกันก่อเหตุมาตั้งแต่ต้นปี ผู้เสียหายที่ถูกรีดเงินเข้าแจ้งความกับตำรวจ ปปป. เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหา จนได้พยานหลักฐานและศาลออกหมายจับผู้ต้องหา ทั้ง 3 ราย และจับกุมได้เมื่อวานนี้ ส่วนการขยายผลออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผล ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของพนักงานสอบสวนที่จะพิจารณา ส่วนผู้ถูกกล่าวหาจะปฎิเสธหรือให้การอย่างไรเป็นสิทธิของผู้ถูกกล่าวหา



ส่วนขั้นตอนหลังจากนี้พนักงานสอบสวน ปปป.จะรวบรวมหลักฐานทำสำนวนส่งให้พนักงานอัยการตามขั้นตอนและแจ้งเรื่องให้ ปปท.หรือ ปปช.ทราบพร้อมกัน เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่รัฐที่เป็นอธิบดีเป็นคนแจ้งความและ 1 ใน 3 ผู้ต้องหาเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ