สังคม

เปิดเบื้องหลังปฏิบัติการจับ 'ศรีสุวรรณ-เจ๋ง ดอกจิก' ขู่รีดเงินอธิบดีฯ

26 ม.ค. 2567

263 views

เบื้องหลังการซ้อนเเผนจับ ศรีสุวรรณ จรรยา และพวก ข่มขู่เรียกสินบนจากกรมการข้าว 3 ล้านบาท



ตำรวจสอบสวนกลาง โดยกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตเเละประพฤติมิชอบ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. เเละ ป.ป.ท. ซ้อนเเผนเข้าจับกุม นายศรีสุวรรณ จรรยา ขณะกำลังรับเงินของกลางในบ้านพักย่านลำลูกกา ปทุมธานี หลังถูกร้องเรียนเเละมีหลักฐานกล่าวหาว่า นายศรีสุวรรณ ได้ร่วมกับ นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก พร้อมพวก มีพฤติกรรมข่มขู่รีดเงินจากอธิบดีกรมการข้าว 3 ล้านบาท แลกกับการไม่ยื่นเรื่องร้องเรียนเเละกลั่นแกล้ง จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวทั้ง 2 คน มาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ก่อนจะร่วมกันเเถลงผลการจับกุม เสร็จสิ้นไปเมื่อ 2 ทุ่มครึ่งที่ผ่านมา



เหตุการณ์ช่วงที่ตำรวจ คุมตัว"นายศรีสุวรรณ" มาถึงหน้าตึกกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ทันทีที่ลงจากรถ สื่อมวลชนพยายามจะสอบถามข้อเท็จจริงเเละเปิดโอกาสให้"นายศรีสุวรรณ"ได้ชี้เเจงข้อกล่าวหา เเต่ก็ไม่ได้พูดอะไรมากนัก



หลังจากพาไปที่ห้องสอบสวน เจ้าหน้าที่จาก 3 หน่วยงานหลัก ประกอบด้วย บก.ปปป. ป.ป.ช. เเละป.ป.ท. ร่วมกันเเถลงผลการจับกุม นำโดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ในฐานะหัวหน้าชุดจับกุม เเละนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันเเละปราบปรามการทุจริตเเห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.



โดยทางป.ป.ช. จะดำเนินการในส่วนของผู้ที่กล่าวหาที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ในคดีนี้ก็คือ นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก ซึ่งถูกกล่าวหาว่าอยู่ร่วมในขบวนการข่มขู่รีดทรัพย์"อธิบดีกรมการข้าว" ซึ่งในการเเถง ท่านเลขาธิการ ป.ป.ช.ใช้คำว่า เป็นตัวการหลัก โดยมีนายศรีสุวรรณ เป็นผู้ร่วมสนับสนุนให้กระทำความผิด จะถูกดำเนินคดีในส่วนที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นก็คือ ความผิดอาญาตามมาตรา 157 เเละกำลังพิจารณาเข้าข่ายความผิด มาตรา 173 เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับทรัพย์สินด้วยหรือไม่



ส่วนนายศรีสุวรรณ เบื้องต้นจะถูกเเจ้งข้อกล่าวหา ฐานเป็นผู้สนับสนุนให้เจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิด ตามกฏหมายอาญามาตรา 86 ซึ่งรองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ย้ำว่า คดีนี้มีพยานหลักฐานเเน่นหนา เอาผิดกับผู้ต้องหากลุ่มนี้ได้ ซึ่งขณะนี้พบมีผู้ร่วมกระทำผิดเเล้วอย่างน้อย 3 คน คือนายศรีสุวรรณ นายยศวริศ เเละอีกคนเป็นผู้หญิง อดีตผู้สมัคร สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ



ตามรายงานการสืบสวน ได้อธิบายที่มาของปฏิบัติการครั้งนี้ เริ่มจากได้รับเรื่องร้องเรียนจาก"นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว อ้างว่าถูกนายศรีสุวรรณ จรรยา ซึ่งในช่วงหลังเรียกตัวเองว่า "เป็นผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน" พร้อมกับ"นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก" ประธานกลุ่มรวมใจรักชาติ และเป็นหนึ่งในคณะทำงานเขตราชการที่ 11 ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี

อีกหนึ่งคน เป็นอดีตผู้สมัคร สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ



ทั้ง 3 คนถูกกล่าวหา ร่วมกันข่มขู่เรียกเงินจำนวน 3 ล้านบาท ก่อนจะมีการเจรจาต่อรองเหลือเพียง 1 ล้าน 5 เเสนบาท เพื่อแลกกับการยุติเรื่องร้องเรียน"โครงการสนับสนุนลดต้นทุนการผลิตด้านการปลูกข้าว" และ"โครงการปรับปรุงการผลิตสำหรับผู้ปลูกข้าว" โดยอ้างว่าพบข้อพิรุธที่ส่อไปในทางทุจริต ที่ผ่านมาทั้งนายศรีสุวรรณ เเละเจ๋งดอกจิก ซึ่งมีตำเเหน่งหน้าที่รับผืดชอบตรวจสอบโครงการในส่วนงานของตัวเอง เคยร่วมกันเเถลงเกี่ยวกับเรื่องนี้มาเเล้ว



แต่ด้วยความที่ นายณัฏฐกิตติ์ มั่นใจว่าที่ผ่านมา บริหารงานหรือปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้เป็นไปอย่างที่ถูกกล่าวอ้าง จึงมองว่าการถูกกระทำเช่นนี้ไม่เป็นธรรมแก่ตนเอง แต่ด้วยความที่เกรงว่าหากถูกร้องเรียนโจมตีบ่อย จะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง จึงยอมจ่ายเงินให้ครั้งแรกก่อนเป็นจำนวน 1 แสน 4 หมื่นบาท ก่อนแอบถ่ายคลิปวิดีโอตอนส่งมอบเงินเก็บไว้เป็นหลักฐาน เเละรวบรวมเเช็ทข้อความต่าง ๆ นำมามอบให้กับพนักงานสอบสวน บก.ปปป.



เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงจนเชื่อว่า ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย มีพฤติกรรมดังกล่าวจริง จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลางออกหมายจับ นายศรีสุวรรณ และ น.ส.พิมณัฏฐา ในข้อความผิดฐาน สนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐกระทำความผิด พร้อมออกหมายจับนายยศวริศ ในความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับผลประโยชน์ และ เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ก่อนวางแผนให้ผู้เสียหายทำการนัดหมายส่งมอบเงินงวดต่อมาอีก 5 แสนบาท ไปส่งมอบให้ในวันนี้เพื่อซ้อนแผนเข้าจับกุมที่บ้านพักของนายศรีสุวรรณ ย่านลำลูกกา ปทุมธานี



ข่าว 3 มิติ ซึ่งติดตามจนท.ตั้งเเต่ช่วงบ่าย ทราบว่า หลังจากผู้เสียหายส่งคนนำเงิน 5 แสนบาทไปให้กับภรรยาของนายศรีสุวรรณ ซึ่งตำรวจมีหลักฐานทั้งหมด เเละเห็นว่ามีการหยิบซองเงินเข้าไปภายในบ้านจริง จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นจับกุม ระหว่างนั้นนายศรีสุวรรณเกิดไหวตัวพยายามวิ่งนำซองเงินไปโยนทิ้งบริเวณข้างบ้าน เจ้าหน้าที่จึงวิ่งไล่ติดตามไปตรวจยึดกลับคืนมาได้ ก่อนแสดงหมายจับให้เจ้าตัวรับทราบ เเละได้เชิญตัวภรรยาของ

นายศรีสุวรรณ ไปสอบปากคำด้วยเช่นกัน



หลังจากเเถลงข่าว ทีมข่าว 3 มิติ ขึ้นไปติดตามต่อที่ บก.ปปป. พบว่าขณะนี้ ทั้งนายศรีสุวรรณ รวมถึงเจ๋งดอกจิก เเละผู้ต้องหาที่เป็นผู้หญิงอีกคน อยู่ระหว่างสอบปากคำเเละพิมพ์ลายนิ้วมือ ส่วนภรรยาของนายศรีสุวรรณ ก็ถูกพามาสอบปากคำด้วยเช่นกัน เบื้องต้นทั้งหมดยังให้การปฏิเสธ ขณะที่นายศรีสุวรรณ รับว่ามีคนเอาเงินมาให้ เเต่ไม่ได้เรียกรับ ซึ่งทางพนักงานสอบสวนกำลังพิจารณาจะคัดค้านการประกันตัว ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน



การซ้อนแผนจับนายศรีสุวรรณ ตำรวจอีกชุดก็เดินทางไปควบคุมตัว นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก สมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ขณะเดินทางไปที่ทำเนียบรัฐบาล เพราะมีหลักฐานว่าเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเรียกรับเงินจากอธิบดีกรมการข้าวร่วมกับนายศรีสุวรรณ จรรยาด้วย



เมื่อเวลา 16.20 น. ตำรวจนครบาล และ สน.ดุสิต ได้เข้าไปเชิญนายยศวริศ หรือ เจ๋ง ดอกจิก ขึ้นรถเพื่อไปทำการสอบสวนที่ สน.ดุสิต จากนั้นนำตัวไปกองบังคับการตำรวจป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ซึ่งระหว่างนั้นนายยศวริศ ยืนยันว่า ตนเองบริสุทธ์ใจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าว พร้อมสู้คดี ซึ่งจะให้ทนายความเป็นคนจัดการ



ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้นำตัว น.ส.พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ ออกมา โดยสื่อมวลชนพยายามสอบถามถึงความเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว แต่ น.ส.พิมณัฏฐา ไม่ตอบอะไร แต่พยักหน้า เมื่อถูกถามว่าพร้อมสู้คดีหรือไม่ และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวขึ้นไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ ปปป. เช่นเดียวกัน



สำหรับนายยศวริศ ชูกล่อม เป็นประธานรวมใจรักชาติและเป็นหนึ่งในคณะทำงาน เขตราชการที่ 11 ที่ได้รับแต่งตั้งจากนายพีรพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมนางสาวพิมณัฎฐา จิระพุทธิภาคย์ อดีตผู้สมัครสส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งนางสาวพิมณัฎฐา เพิ่งลงภาพได้รับคำสั่งแต่งตั้งในวันนี้



หลังจากนั้น นายพีระพันธุ์ ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยว่า นายยศวริศ เป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ หากมีความผิดต้องให้ออก หรือจะมาลาออกก็ได้เป็นสิทธิ์ และต้องดูผลการตรวจสอบของตำรวจเป็นอย่างไร ถ้าดูแล้วไม่เหมาะสมก็คงต้องให้ออก ไม่เกี่ยวกับตนเองและพรรค และไม่ได้เป็นคณะทำงานเขตตรวจราชการที่ 11 แล้ว เพราะได้ปรับเปลี่ยนไปตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมา

คุณอาจสนใจ

Related News