สังคม

'ดีเอสไอ' รับเป็นคดีพิเศษ เตรียมประสานภาครัฐสอบสวน กรณีตำรวจ สภ.อรัญฯ บังคับ 'ลุงเปี๊ยก' สารภาพ

โดย panisa_p

25 ม.ค. 2567

54 views

คดีฆาตกรรม น.ส.บัวผัน ตอนนี้ผู้ต้องหาที่เป็นเยาวชนทั้ง 5 คน รวมถึงผู้ปกครอง ถูกเเจ้งข้อกล่าวหาเเละส่งตัวไปดำเนินคดีทั้งหมดเเล้ว ส่วนกรณีกล่าวหาตำรวจ สภ.อรัญประเทศ มีพฤติกรรมบีบบังคับจน "นายเปี๊ยก" ยอมรับสารภาพทั้งที่ไม่ได้เป็นคนฆ่า เเม้ตำรวจจะยังไม่สรุปว่าจะดำเนินคดีเพิ่มเติมในส่วนนี้หรือไม่ เเต่ล่าสุด กรมสอบสวนคดีพิเศษ ยืนยันว่า "คณะกรรมการได้พิจารณาเเละรับเรื่องนี้เป็นคดีพิเศษเเล้ว" จากนี้จะประสานกับภาครัฐ 4 หน่วยงาน ดำเนินการสอบสวนในความผิดที่เกี่ยวกับ พ.ร.บ.ป้องกันปราบปรามการทรมานเเละการกระทำให้บุคคลสูญหาย



การที่นายปัญญา หรือเปี๊ยก คงเเสนคำ รับสารภาพเเละยังสามารถพาไปชี้จุด-ทำเเผนได้เป็นฉาก ๆ ซึ่งต่อมาพฤติการณ์นี้ ถูกข้อสังเกตจากสื่อมวลชนเเละภาคประชาสังคม ซึ่งสงสัยว่าเขาเป็นคนลงมือฆ่าภรรยาเเละอุ้มร่างไปทิ้งอำพรางจริงหรือไม่ เพราะเท่าที่สืบประวัติขระนั้น พบว่า"นายเปี๊ยก"มีอาการติดสุราเรื้อรัง เเละไม่ค่อยมีเรี่ยวเเรง



กระทั่งมีการเปิดเผยภาพหลักฐาน เเละพบว่าคนร้ายไปไม่ใช่"นายเปี๊ยก" เเต่เป็นกลุ่มเยาวชน 5 คน อายุระหว่าง 13-16 ปี อุ้มขึ้นมอเตอร์ไซค์ พาไปทุบตีทำร้ายจนเสียชีวิต หลังจากนั้นเรื่องนี้ก็ได้กลายเป็นประเด็นร้อนต่อเนื่องที่สังคมต่างวิพากษ์วิจารณ์การปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจสภ.อรัญประเทศ ทำไมถึงเร่งรีบปิดคดี เเละอะไรคือสาเหตุลึก ๆ ที่ทำให้"นายเปี๊ยก"รับสารภาพในคดีที่มีโทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิต



เรื่องนี้ดูเหมือนจะจบลงตรงที่นายเปี๊ยก ตอบคำถามในวันเเถลงข่าวครั้งเเรก คือไม่มีใครสั่ง เเละที่รับไปเพราะคิดเเละจินตนาการขึ้นมาเอง ซึ่งเป็นคำตอบที่ยังคาใจของสื่อมวลชน จนกระทั่งมีคลิปเสียงหลุดออกมาถึง 2 เหตุการณ์ มีการระบุเเละกล่าวหาว่าในระหว่างที่ถูกตำรวจควบคุมตัวในห้องสืบสวน มีเจ้าหน้าที่หนึ่งนายลักษณะใส่ขาเทียม ให้ถอดเสื้อเเละใช้ถุงดำมาครอบศรีษะ



ต่อมาทราบว่า บุุคลที่ถูกกล่าวหาเป็นสายสืบทำหน้าที่ธุรการยศดาบตำรวจ ถูกเอาผิดฐานผิดวินัยตำรวจ เเละเเจ้งอาญามาตรา 157 ส่วนคดีที่เกี่ยวพ.ร.บ.ทรมาน-อุ้มหาย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 เเถลงว่ายังไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะเเจ้งข้อกล่าวหาในส่วนนี้ได้ จึงมอบให้ตำรวจภูธรสระเเก้ว รับไปดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานต่อ



เเต่ญาติของ"นายเปี๊ยก"ไม่สบายใจ เเละกังวลว่าอาจมีการช่วยเหลือกันหรือไม่ จึงตัดสินใจไปร้องกับดีเอสไอเเละหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลังจากส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ สอบปากคำผู้เสียหายเเละรวบรวมข้อมูลในเบื้องต้น ล่าสุด ได้รับการยืนยันจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ คณะกรรมการพิจารณา รับกรณีของนายเปี๊ยกเป็นคดีพิเศษเเล้ว



กรณีนี้เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 31 เเห่งพ.ร.บ.ป้องกันปราบปรามการทรมานเเละการกระทำให้บุคคลสูญหาย ซึ่งให้ 4 หน่วยงาน มีอำนาจสอบสวน คือ ฝ่ายปกครอง อัยการ ตำรวจ เเละดีเอสไอ ซึ่งขณะนี้ยังไม่ยืนยันว่ามีเจ้าหน้าที่กี่นายเกี่ยวข้อง จากนี้จะประสานไปที่ 4 หน่วยงานนี้ เพื่อตั้งคณะทำงานขึ้นมาสืบสวนสอบสวนเรื่องนี้ อัตราโทษคือจำคุก 5-15 ปี

คุณอาจสนใจ