สังคม
'เฉลิมชัย' ปัดเอี่ยวแก๊งหมูเถื่อน ยันไม่มีสัมพันธ์เครือญาติกับ 'เฮียเก้า'
โดย panwilai_c
12 ม.ค. 2567
75 views
หลังจากที่เมื่อวานนี้ (11 ม.ค. 67) กรมสอบสวนคดีพิเศษนำหมายจับไปติดตามจับผู้ต้องหา 4 คนในคดีส่งออกชิ้นส่วนไก่ชำแหละ โดยเฉพาะตีนไก่ด้วยวิธีนำเข้าจากประเทศแถบอเมริกาใต้ มาสวมสิทธิ์เป็นสินค้าไทยเพื่อส่งไปจีน
ซึ่งหนึ่งในผู้ต้องหาตามหมายจับคนสำคัญคือคือนาย หลี่ เซิ่ง เจียว หรือเฮียเก้า โดยมีภาพเฮียเก้า ถ่ายภาพคู่นักการเมืองจำนวนมาก รวมถึงนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ด้วย วันนี้นายเฉลิมชัย ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนยืนยันว่าไม่ได้มีสัมพันธ์เครือญาติลูกพี่ลูกน้องกับเฮียเก้า และไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจของเฮียเก้า และในชีวิตเกลียดการทุจริตคอรัปชั่น ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน กรณีที่เมื่อวานนี้ ดีเอสไอนำหมายจับเข้าตรวจค้นและติดตามผู้ต้องหาในขบวนการนำเข้าไก่โดยผิดกฎหมายเพื่อส่งต่อไปประเทศจีน ในคดีพิเศษที่ 127/2566 โดยมีนายหลี่ เซิ่งเจียว หรือเฮียเก้า นายกสมาคมการค้าแลกเปลี่ยนเศรษฐกิจไทยเอเชีย รวมอยู่ด้วย
นายเฉลิมชัย ยืนยันว่า กรณีที่มีผู้กล่าวว่านายหลี่ เซิ่งเจียว เป็นพี่น้องต่างมารดากับตนนั้น เป็นเรื่องเท็จ เพราะบิดาของตนอยู่ในประเทศไทยมานาน 80 กว่าปีแล้ว โดยหลังจากที่บิดาของตนมาอยู่เมืองไทยแล้ว ก็ไม่เคยกลับไปประเทศจีนอีกเลย แล้วเขาจะไปมีลูกที่จีนได้อย่างไร หรือกรณีของครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีนทั่วไป ที่มีญาติอยู่ในจีน และญาติชาวจีนก็สามารถมาทำธุรกิจในไทยได้ ซึ่งถ้าเขาทำผิด ก็ต้องถูกดำเนินการตามกฎหมาย ทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมาย
นอกจากนี้ ตนไม่รู้จักบ้านของนายหลี่ รวมถึงไม่เคยไปบ้านและที่ทำงานของเขาด้วย ส่วนกรณีที่เคยเจอกันในงานนั้น ก็เป็นเพราะตนได้รับเชิญให้ไปร่วมงานในโรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่งมีนักธุรกิจและข้าราชการมาร่วมงานจำนวนมาก และมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่เราจะรู้ได้ทั้งหมดว่าใครทำอะไร อย่างไรบ้าง
ส่วนบุตรชายของนายหลี่ คือนายกรินทร์ ปิยพรไพบูลย์ ซึ่งเป็นนามสกุลเดียวกับนายวิรัช ปิยพรไพบูลย์ พี่ชายของนายเฉลิมชัย และนายจักพันธ์ ปิยพรไพบูลย์ สส.ประจวบคีรีขันธ์ พรรคประชาธิปัตย์ และเป็นหลานชายของนายเฉลิมชัยนั้น นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ตนรู้แค่ว่าเป็นการมาขอใช้นามสกุล แต่ไม่ทราบรายละเอียดเรื่องนี้แต่อย่างใด
นายเฉลิมชัย กล่าวอีกว่า ชีวิตของตนไม่เคยเอื้อผลประโยชน์ให้กับคนพวกนี้ ไม่เคยรับเงินสกปรกทั้งต่อหน้าและลับหลัง เพราะในชีวิตของตนเกลียดการทุจริตคอร์รัปชั่น ดังนั้น ถ้าเป็นการกระทำความผิดของใคร บุคคลนั้นต้องรับโทษและเข้าสู่กระบวนยุติธรรมเพื่อพิสูจน์ตัวเองต่อไปในชั้นศาล ไม่มีสิทธิ์ที่จะได้รับการยกเว้น ซึ่งตนไม่เคยปกป้องคน ที่ทำผิดอยู่แล้ว โดยบอกกับคนใกล้ชิดและข้าราชการแล้วว่าถ้ามีใครทำอะไรที่ผิดกฎหมาย ตนจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวหรือปกป้องเด็ดขาด
นายเฉลิมชัยกล่าวตอนหนึ่งว่า ใครผิดก็ว่าไปตามผิด ถ้าคนทำผิด เป็นญาติหรือคนสนิทของผม เขาก็ต้องรับโทษ ผมไม่ปกป้องอยู่แล้ว ขอให้เอาความจริงมาพูดกัน อย่าเอาประเด็นทางการเมืองมาโยง มันไม่มีประโยชน์
นายเฉลิมชัย กล่าวอีกว่า ตนสามารถชี้แจงทุกอย่าง และสมัยที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์นั้น ตอนที่ปรากฏข่าวพบการลักลอบนำเข้าเนื้อหมูเข้ามา ตนได้สั่งการอธิบดีกรมปศุสัตว์ ว่าห้ามปล่อยเนื้อหมูเหล่านั้นออกจากท่าเรือหรือสถานที่ต่างๆ ต้องไม่มีการเคลียร์หรือยินยอมให้นำเนื้อหมูดังกล่าวออกมา ถ้าถูกนำเข้ามาอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย คำสั่งนี้ของตนจึงเป็นที่มาของการอายัดเนื้อหมู 100 กว่าตู้ ซึ่งสามารถไปสอบถามเรื่องคำสั่งนี้จากข้าราชการของกระทรวงฯได้
ขณะที่ทางกระทรวงฯได้มีการจับกุม อายัด และทำลายเนื้อหมูเถื่อนแล้ว ส่วนจะมีข้าราชการคนใดเข้าไปเกี่ยวข้องกับปัญหาดังกล่าว ก็ต้องว่ากันไปตามกระบวนการ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของตน ตอนนี้ให้ทุกอย่างว่ากันไปตามกระบวนการ แต่ถ้ามีใครมาทำอะไรให้ตนได้รับความเสียหาย ก็จะดำเนินตามกฎหมายต่อไป