สังคม

ประเด็นข่าวรอบวัน 2 ม.ค. 67 – ตร.เกาหลีใต้ เร่งหาแรงจูงใจมือแทงคอ หน.พรรคฝ่ายค้าน

โดย attayuth_b

2 ม.ค. 2567

57 views

ตร.เกาหลีใต้ เร่งหาแรงจูงใจมือแทงคอ หน.พรรคฝ่ายค้าน


ตำรวจเมืองปูซาน ของเกาหลีใต้ ตั้งกองกำลังสอบสวน เหตุคนร้ายใช้มีดแทงคอ นายอี แจ มยอง ผู้นำพรรคฝ่ายค้าน กลางวงสัมภาษณ์สื่อมวลชน ในเมืองปูซาน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยคนร้าย เป็นชายวัย 67 ปี ยืนปะปนกับสื่อมวลชน ก่อนทำทีขอลายเซ็นจากนายอี แจ มยอง จากนั้นอาศัยจังหวะใช้มีดแทงไปที่คอ ทำให้เขาล้มลงนอนกับพื้นทันที ขณะที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย สามารถจับตัวคนร้ายได้ในที่เกิดเหตุ และได้นำตัวนาย อี แจ มยอง ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ เพื่อนำตัวส่งโรงพยาบาล ด้านแพทย์ ระบุอาการบาดเจ็บไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต และจนถึงขณะนี้ ตำรวจยังไม่ทราบแรงจูงใจในการก่อเหตุ เบื้องต้นตั้งข้อหาพยายามฆ่า สำหรับ นาย อี แจ มยอง เป็นผู้นำพรรคฝ่ายค้าน เพิ่งแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดี เมื่อปี 2022 ไปอย่างฉิวเฉียด และปัจจุบัน นาย ลี กำลังเผชิญกับข้อกล่าวหารับเงินสินบน จากโครงการพัฒนา เมื่อครั้งที่เป็นนายกเทศมนตรีเมืองซ็องนัม ใกล้กับกรุงโซล แต่เขาได้ปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา


อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ครองแชมป์นักท่องเที่ยวมากที่สุด


ผู้อำนวยการศูนย์เฝ้าระวังภัยคุกคามพื้นที่อุทยานแห่งชาติ เปิดเผยสถิตินักท่องเที่ยว ในอุทยานแห่งชาติ 156 แห่ง ช่วงเทศกาลปีใหม่ ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2566 - 1 มกราคม 2567 มีมากถึง 800,867 คน อุทยานแห่งชาติที่มีนักท่องเที่ยวสะสมสูงสุด คือ 1.อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ 101,998 คน รองลงมาคือ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา - หมู่เกาะพีพี อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า และอุทยานแห่งชาติคลองลาน จัดเก็บค่าเข้าอุทยานแห่งชาติได้รวม 41,612,940 บาท โดยเกิดอุบัติเหตุสะสม 77 ครั้ง เสียชีวิต 1 ราย


ผู้ต้องกักชาวเมียนมา ประท้วงเรียกร้องปล่อยตัวกลับเมียนมา


ผู้ต้องกัก 258 คน ก่อเหตุประท้วงภายในอาคารตึก 5 ชั้น ซึ่งเป็นอาคารกักตัวแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา ที่รอการส่งกลับประเทศ ภายในสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดระนอง เพื่อเรียกร้องให้ทางการไทย ปล่อยตัวกลับบ้าน ไปฉลองปีใหม่ที่ประเทศเมียนมา โดยมีตำรวจชุดควบคุมฝูงชน และชุดราชเดช หน่วยปฎิบัติการพิเศษ เข้าสมทบกำลัง ร่วม 60 นาย ใช้เวลาเจรจาเกือบ 1 ชั่วโมง จึงควบคุมสถานการณ์ได้ พร้อมคุมควบแกนนำ 6 คน ไปสอบสวน


ครม.เห็นชอบลดภาษีสุราพื้นบ้าน-ไวน์-สถานบริการ


ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบลดภาษีเครื่องดื่มสุรา เหลือ 5% และหากไม่ได้นำเข้าเพื่อการค้าเหลือ 0% ส่วนภาษีระดับแอลกอฮอลล์ 1 ลิตร ลดเหลือ 1,000 บาท จากเดิม 1,500 บาท ขณะที่สุราพื้นบ้าน เช่น กระแช่ สาโท และสุราแช่พื้นเมืองอื่น ที่มีดีกรีไม่เกิน 7% จากเดิมเสียภาษี 10% หรือ 150 บาทต่อแอลกอฮอลล์ 1 ลิตร ของใหม่ลดภาษีเหลือ 0% แต่ภาษีระดับแอลกอฮอลล์คงเดิม นอกจากนี้ยังเห็นชอบลดภาษีสรรพสามิตธุรกิจสถานบันเทิง เดิมเสีย 10% ลดลงเหลือ 5% เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว และเศรษฐกิจภายในประเทศ

คุณอาจสนใจ