นายกฯ ลงพื้นที่ จ.น่าน ติดตามแก้หนี้นอกระบบ

วันนี้ (23 ธ.ค. 66) นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่จังหวัดน่าน เพื่อติดตามการดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ มีประชาชนมาต้อนรับ ให้กำลังใจจำนวนมาก ส่วนข้อมูลโครงการแก้หนี้นอกระบบจังหวัดน่านมีประชาชนเข้าโครงการประมาน 500 ราย มูลหนี้ประมาณ 33 ล้านบาท และพบมีลูกหนี้ต้องจ่ายดอกเบี้ยถึงวันละ 4 พันบาท



นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่พร้อมคณะไปที่ ศาลากลางจังหวัดน่าน มีประชาชนประมาณ 200 คน มารอให้การต้อนรับ พร้อมป้ายให้กำลังใจ ขณะเดียวกันมีชาวบ้านบางคนตะโกนบอกว่า "ยังรอเงินดิจิทัลอยู่" ซึ่งนายกฯตอบกลับว่า "ครับ" ด้วย



จากนั้น นายกฯ เป็นประธานการประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามการเจรจาแก้หนี้นอกระบบในพื้นที่จังหวัดน่าน โดยย้ำว่าการแก้หนี้ เป็นวาระแห่งชาติของรัฐบาล เพราะเป็นปัญหาที่กัดกร่อนสังคมไทยมายาวนาน เป็นสารตั้งต้นของปัญหาต่างๆ ทั้งปัญหาสังคม ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาความไม่ปลอดภัยของประชาชนทุกคน



สำหรับ จ.น่าน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่ามีผู้แจ้งเข้าโครงการแก้หนี้นอกระบบแล้ว 500 กว่าราย และมีมูลหนี้ประมาณ 33 ล้านบาท แต่การนำเข้ามาสู่ระบบกลับมีเพียง 100 กว่ารายเท่านั้น ถือว่าน้อยมาก จึงเสนอให้ใช้กลไกของกำนันและผู้ใหญ่บ้านลงพื้นที่ไปดูและติดตามปัญหา เพราะหาก คุณสมบัติไม่ครบ แล้วถูกตัดสิทธิ์ออกไป ปัญหาก็จะไม่ได้รับการแก้ไข



โดยนายกฯบอกในที่ประชุมด้วยว่า เป็นเรื่องประหลาดที่ประชาชนเดือดร้อนแต่ข้อมูลไม่ครบ แล้วกลายเป็นขาดคุณสมบัติ ทั้งที่อาจจะขาดข้อมูลเพียงนิดเดียว แต่กลับไปตัดเขาออกและไม่ยอมเรียกมาแก้ไข จึงให้อธิบดีกรมการปกครองติดตามเรื่องนี้ด้วย



นายกรัฐมนตรี ยังให้สัมภาษณ์ ยกตัวอย่าง ลูกหนี้นอกระบบ รายหนึ่ง มีเงินกู้อยู่ 80,000 บาท จ่ายดอกเบี้ยมากถึงวันละ 4,000 บาท



ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงหนึ่งที่นายกฯร่วมรับฟังการแก้ปัญหาหนี้ระหว่างประชาชนซึ่งเป็นลูกหนี้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีลูกหนี้แสดงความเห็นว่าไม่มั่นใจ กลัวเรื่องความปลอดภัย โดยนายกฯกล่าวให้ความมั่นใจ และเน้นย้ำให้ฝ่ายความมั่นคง โดยเฉพาะตำรวจในพื้นที่เรื่องความปลอดภัยให้ดูแลเป็นพิเศษ



ข้อมูลล่าสุดจาก กรมการปกครอง เมื่อเวลา 15.30 น. มีมูลหนี้รวม 6,763 ล้าน 9 แสน 1 พันบาท ประชาชนลงทะเบียนแล้ว 107,625 ราย โดยเป็นการลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ 93,865 ราย และการลงทะเบียน ณ ศูนย์อำนวยการแก้ไขหนี้นอกระบบ 13,760 ราย รวมจำนวนเจ้าหนี้ 78,213 ราย