นายกฯ ยันคุย 'ทวี' ไร้ปม 'ทักษิณ' ด้านฝ่ายค้านหวั่น ระเบียบใหม่เปิดช่องวิ่งเต้น

นายกรัฐมนตรียืนยันว่าการที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเข้าพบเมื่อวานนี้ ไม่มีวาระการหารือเรื่องนายทักษิณ ชินวัตร ขณะที่ประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ยืนยันจะยังเดินทางไปดูงานที่โรงพยาบาลตำรวจ ส่วนนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เผยแพร่ข้อความตั้งคำถามถึงระเบียบ การกักขังนอกเรือนจำของกรมราชทัณฑ์อาจเป็นช่องทางทุจริตและไม่เป็นธรรมได้



นายเศรษฐา​ ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนกรณีเรียก พันตำรวจเอกทวี​ สอดส่อง​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม​ เข้าหารือที่ตึกไทยคู่ฟ้าเมื่อวานนี้โดยยืนยันว่า เป็นการหารือ ปัญหาคดีหมูเถื่อน และคดีอื่นๆ ไม่มีเรื่องของคุณทักษิณ



ส่วนเรื่องระเบียบคุมขังนอกเรือนจำก็ยืนยันว่า ไม่ได้สอบถาม ว่า คุณทักษิณ จะเข้าหลักเกณฑ์หรือไม่ เพราะการพิจารณาเรื่องนี้เป็นอำนาจของกรมราชทัณฑ์ และระเบียบนี้ก็มีแนวคิดมาตั้งแต่ปี 2560 ตอนนั้น ก็ไม่ใช่รัฐบาลชุดนี้



ส่วนกรณีกรรมาธิการการตำรวจ จะไป รพ.ตำรวจนั้น นายกฯ กล่าวว่าต้องว่าไปตามกฎที่ตั้งไว้แต่ถ้าไปละเมิดสิทธิคงไม่ถูกต้อง



ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรค ในฐานะประธานกรรมาธิการ การตำรวจ ออกมาตอบโต้หลังจากเมื่อวานนี้ คุณสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี และคุณวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของคุณทักษิณ ออกมาเตือนกรรมาธิการ ที่ จะบุกไปที่ โรงพยาบาลตำรวจว่าถ้าอาจถูกฟ้องร้องได้ นายชัยชนะระบุว่าไม่แปลกใจที่จะมีการ ใช้วิธีการฟ้องปิดปากกรรมาธิการฯ และประชาชนที่ต้องการทราบว่า นายทักษิณ อยู่ที่ไหนและทำไมยังรักษาตัวไม่หาย



และยืนยันว่าในวันที่ 12 มกราคมนี้ กรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร จะเดินทางไปดูงานที่โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อสอบถามถึงมาตรฐานการรักษาพยาบาลของผู้ต้องขัง และ สอบสวนหาข้อเท็จจริงให้กับคนไทย เพราะเป็นการทำหน้าที่ ของกรรมาธิการ ที่มีอำนาจตามรัฐธรรมนูญ



ด้านนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล วันนี้ก็ทวิตข้อความ ย้ำ เหตุผลที่ออกมาวิจารณ์เรื่องนี้ว่า ไม่ใช่เพราะเห็นแย้งกับการที่คุณทักษิณ ได้รับการรักษาตัว ใน รพ.ที่มีศักยภาพสูงกว่า รพ.ราชทัณฑ์ เพียงแต่ต้องการระเบียบหลักเกณฑ์ที่ชัดเจน เพื่อนักโทษทุกคนในการแสดงความประสงค์ที่จะขอเข้ารักษาตัวที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ แบบคุณทักษิณได้



ส่วนเรื่องระเบียบ กักขังนอกเรือนจำนายวิโรจน์ระบุว่า เห็นด้วยกับรองนายกฯภูมิธรรม เวชยชัย ในหลักการ เพียงแต่ระเบียบดังกล่าว มีช่องให้เกิดการวิ่งเต้น และเรียกรับผลประโยชน์ได้ เพราะการตัดสินใจจะอยู่ที่คณะทำงานซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา และคนภายนอกที่อธิบดีกรมราชทัณฑ์แต่งตั้ง นอกจากนี้ยังให้อำนาจอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เป็นผู้ชี้ขาดว่าใครจะได้รับการกักขังนอกเรือนจำ



ดังนั้น ระเบียบนี้อาจกลายเป็น ระเบียบ คุกมีไว้ขังคนจนได้ จึงเห็นว่า ควรทำหนังสือถึง ป.ป.ช. ให้ ป.ป.ช. พิจารณา และทำหนังสือถึงผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาแก้ไขระเบียบดังกล่าว ปิดช่องการทุจริตและความไม่เป็นธรรม