'สมรักษ์' รับทราบข้อกล่าวหา สู้คดี พร้อมขอโทษครอบครัว

ความคืบหน้าคดี ที่เด็กหญิงอายุ 17 ปี แจ้งความกล่าวหา นายสมรักษ์ คำสิงห์ ข้อหากระทำอนาจาร และพรากผู้เยาว์เมื่อวันที่ 10 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น ได้มีมติ แจ้ง 4 ข้อหา ปรากฎว่า นายสมรักษ์ ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน เมื่อคืนที่ผ่านมาพร้อมให้เก็บตัวอย่างดีเอ็น เพื่อใช้ประกอบสำนวนการสอบสวนทางคดี ล่าสุดวันนี้ทางพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร.ก็แนะนำให้สมรักษ์ รับสารภาพเพื่อผ่อนหนักให้เป็นเบา



นายสมรักษ์ คำสิงห์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวภายหลังเสร็จสิ้น เดินทางพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบ 4 ข้อหาเมื่อคืนที่ผ่านมา



ด้าน พ.ต.ท.ศุภฤกษ์ สุวรรณราช รอง ผู้กำกับสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น บอกว่า นายสมรักษ์ ผู้ต้องหาที่ 1 ได้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหา โดยได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา หลังจากนี้พนักงานสอบสวนให้เวลา 15 วัน เพื่อที่จะไปเขียนคำให้การเพื่อแก้ข้อกล่าวหา ซึ่งตลอดเวลาที่ได้มีการสอบปาก นายสมรักษ์ ไม่มีอาการเครียดแต่อย่างใด แต่ก็มีความกังวลถึงเรื่องที่เกิดขึ้นที่เกิด



การที่นายสมรักษ์ เข้ามาพบพนักงานสอบสวน เพราะไม่มีพฤติการณ์ที่จะหลบหนี จึงไม่ได้มีการควบคุมตัว และเตรียมจะไปปรึกษาทนายความ



ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 ที่เป็นคนขับรถจักรยานยนต์พานายสมรักษ์ไปในวันเกิดเหตุ และผู้เสียหายไปโรงแรมจะมีการออกหมายเรียกต่อไป ถูกแจ้ง 2 ข้อหา คือ ร่วมกันพรากผู้เยาว์ และข้อหา ร่วมกันพาบุคคลอื่นไปทำอนาจาร ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหา ภายใน 7 วัน หากไม่มาพบตามหมายเรียกก็จะมีการออกหมายจับตามขั้นตอนต่อไป



ทางพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บอกว่า กรณีที่นายสมรักษ์ ยังปฏิเสธทุกข้อกล่าวหานั้น มองว่า นายสมรักษ์ ควรให้การรับสารภาพ เพราะอาจเป็นเหตุบรรเทาโทษจากหนักเป็นเบาได้ เนื่องจากนายสมรักษ์เป็นบุคคลมีชื่อเสียงและเคยทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ ประกอบกับข้อหาดังกล่าวมีอัตราโทษสูง อีกทั้งพยานหลักฐาน ทั้งกล้องวงจรปิด และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ เช่น สารคัดหลั่งต่างๆ ที่บ่งชี้ชัดเจนว่า เกิดเหตุการณ์ขึ้นจริง และเด็กยังยืนยันว่าถูกล่วงละเมิดทางเพศจริงทั้งที่ตนได้ขัดขืนแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการตรวจสอบคัดหลั่งจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งพนักงานสอบสวนจะใช้ประกอบพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีต่อไป



ส่วนสถานบันเทิงดังกล่าว พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ บอกว่า ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานแล้วว่าร้านดังกล่าวเข้าข่ายการกระทำความผิดหรือไม่ และให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น ประสานไปยังฝ่ายปกครองหรือผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเพื่อดำเนินการตามกฎหมายแล้วเช่นกัน