UNESCO มติเอกฉันท์ ขึ้นทะเบียน 'สงกรานต์ไทย' เป็นมรดกโลก

ที่ประชุมยูเนสโกครั้งที่ 18 ที่เมืองคาเซเน สาธารณรัฐบอตสวานา มีมติเอกฉันท์ ประกาศขึ้นทะเบียน "สงกรานต์ไทย" เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้แล้ว



วาระของประเทศไทย ในที่ประชุมคณะกรรมการระหว่างรัฐบาล ว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ของยูเนสโก เริ่มจากการเปิดคลิป คำกล่าวแถลงของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ถึงความสำคัญของเทศกาลสงกรานต์ไทย ต่อด้วยภาพประเพณีสงกรานต์ของไทย พร้อมเพลงประกอบคลิปวิดีโอ ให้ที่ประชุมได้เห็นมรดกทางวัฒนธรรมภูมิปัญญาของไทย



ก่อนจะประชุมลงมติ เจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม ได้ใส่เสื้อลายดอกสัญลักษณ์สงกรานต์ ปะพรมน้ำให้กับผู้ที่เข้าประชุม จากนั้นก็เริ่มประชุมใช้เวลาประมาณ 10 นาที จึงมีมติเอกฉันท์ ประกาศให้สงกรานต์ไทยขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ โดยไม่มีข้อซักถาม ซึ่งถือว่าสมบูรณ์แบบ



หลังจากได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแล้ว วันพรุ่งนี้ เวลา 18 นาฬิกา กรมส่งเสริมวัฒนธรรม จะจัดงานใหญ่ ฉลองสงกรานต์ มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติ ที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการกทม. นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานเปิดงาน พร้อมคณะรัฐมนตรี ทูตานุทูต และปลัดกระทรวง ซึ่งจะมีพิธีสรงน้ำพระพุทธสิหิงค์ ขบวนแห่ฉลองสงกรานต์ ไปยังวัดสุทัศนเทพวราราม ประกอบด้วย ขบวนมหาสงกรานต์จตุรทิศแผ่นดินไทย ขบวนอันเชิญพระพุทธสิหิงค์ ขบวนตำนานนางสงกรานต์ ทั้ง 7 วัน



นำโดย น.ส.แอนโทเนีย โพซิ้ว รองอับดับ 1 มิสยูนิเวิร์ส 2023 มาในชุด "นางมโหธรเทวี" นางสงกรานต์ ประจำปี 2567 ตามด้วยขบวนเริงรื่นชื่นสงกรานต์ 4 ภาค ขบวนแตรวงกลองยาว และมีการแสดงดนตรีโดยวงสุนทราภรณ์ ในเวลา 19.00 น.ที่ลานคนเมือง กทม. จึงขอเชิญชวนพี่น้องชาวไทย ร่วมแสดงความยินดีในวาระสำคัญยิ่งนี้ด้วย ก่อนหน้านี้ รัฐบาล เพิ่งประกาศจะใช้ประเพณีสงกรานต์ เป็นพลัง Soft power ส่งเสริมการท่องเที่ยว สลับจัดงานตลอดเดือนเมษายนในปีหน้า



ยูเนสโก เคยขึ้นทะเบียนมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของไทยมาก่อนหน้านี้แล้ว 3 รายการ ประกอบด้วย ปี 2561 โขน/ปี 2562 นวดไทย และปี2564 โนราห์