สังคม

หนึ่งในผู้นำเข้าหมูแช่แข็ง มอบตัวดีเอสไอ อ้างถูกเจ้าหน้าที่กลั่นแกล้งไม่ออกใบอนุญาตให้

โดย panisa_p

1 ธ.ค. 2566

184 views

กรรมการบริษัท ศิขัณทิน เทรดดิ้ง และเป็นกรรมการบริษัท สมายล์ ท็อป เค เอนเตอร์ไพรส์ ซึ่งถูกดีเอสไอดำเนินคดีพร้อมผู้นำเข้าหมูเถื่อนอีก 8 บริษัท จำนวน 161 ตู้คอนเทนเนอร์ เข้ามอบตัวกับดีเอสไอแล้วเมื่อเช้านี้ และเปิดใจกับสื่อมวลชนว่า บริษัทของเขานำเข้าหมูและมันหมูแช่แข็งเพื่อส่งไปขายประเทศลาว และทำธุรกิจนี้มานานมาก แต่เขาอ้างว่าสินค้าชุดล่าสุด 41 ตู้คอนเทนเนอร์ นี้ถูกเจ้าหน้าที่กลั่นแกล้งจนกลายเป็นสินค้าตกค้าง และถูกรวมเข้ากับหมูเถื่อนตู้อื่นๆ ด้วย ส่วนเหตุผลที่เขาเชื่อว่าถูกกลั่นแกล้ง เพราะเขาเคยร้องเรียนการเรียกรับเงินของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่เกี่ยวข้องกับขั้นตอนดังกล่าว



นายบริบูรณ์ ลออปักษิณ กรรมการบริษัทศิขันทิน เทรดดิ้ง และบริษัทสมายล์ ท็อป เค เอนเตอร์ไพร์ส จำกัด เข้าพบรองอธิบดี ดีเอสไอ และหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ 59/2566 กรณีนำเข้าหมูเถื่อน 161 ตู้ โดยนายบริบูรณ์พร้อมทนายความ นำเอกสารหลักฐานมามอบให้พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาพยายามนำเข้าสินค้าโดยไม่ผ่านพิธีศุลกากร ตามพรบ.ศุลกากร และความผิดตามพรบ.โรคระบาดสัตว์ ซึ่งนายบริบูรณ์ปฎิเสธทุกข้อกล่าวและขอเวลา 15 วัน นำส่งเอกสารทั้งหมดให้พนักงานสอบสวน



ข้อกล่าวหาดังกล่าวมาจากกรณีที่บริษัททั้งสองแห่ง นำเข้าผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็ง ระหว่างวันที่ 19 ถึง 30 กันยายนปีที่แล้ว รวม 41 ตู้คอนเทนเนอร์ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมปศุสัตว์ และไม่ได้ดำเนินการทางพิธีการศุลกากร จนกลายเป็นสินค้าตกค้าง และถูกทั้งสองกรมดังกล่าว แจ้งความร้องทุกข์ต่อดีเอสไอ



ขณะที่นายบริบูรณ์ ชี้แจงกับสื่อมวลชนว่า ทั้งสองบริษัทที่เขาเป็นกรรมการ ได้ทำธุรกิจนำเนื้อหมูและมันหมูจากต่าประเทศ เข้ามาประเทศไทย เพื่อไปจำหน่ายประเทศลาวจริง และทำธุรกิจนี้มานานแล้ว กระทั่งล่าสุด ที่นำเข้ามา 41 ตู้ ในจำนวนนี้มี มันหมูแช่แข็ง 2 ตู้ จากประเทศเนเธอแลนด์ เตรียมส่งขายต่อประเทศลาว เขาอ้างว่าได้ดำเนินการตามขั้นตอนปกติ จนเมื่อถึงท่าเรือแหลมฉบัง กลับติดที่ขั้นตอนด่านกักกันสัตว์ชลบุรี ไม่ออกไปอนุญาตให้



นายบริบูรณ์ กล่าวหาว่าเขาถูกเจ้าหน้าที่รัฐกลั่นแกล้งเรียกหาเอกสารที่ไม่มีอยู่ในระเบียบการปฎิบัติ อีกทั้งด่านกักกันสัตว์ ส่งเรื่องให้กรมปศุสัตว์ไปพิจารณาด้วยข้อความที่ผิดพลาด จากคำว่า "มันสุกร" หรือเนื้อหมู เป็นเนื้อสุกรแช่แข็ง ซึ่งเป็นคนละกรณีกัน ทำให้สินค้าของเขากว่า 100 ล้านบาท ตกค้างที่ท่าเรือแหลมฉบัง



นายบริบูรณ์กล่าวอีกว่า เมื่อสินค้าเขาตกค้าง จึงกลายเป็นว่า ถูกนำไปรวมกับหมูเถื่อนตู้อื่นๆที่เหลือ ทั้งที่สินค้าของเขาเป็นการนำเข้าคนละล็อต และควรจะผ่านด่านไปนานแล้ว และทำให้บริษัทของเขาเสียหายตามไปด้วย



นายบริบูรณ์ ยังได้ส่งเอกสารลำดับเวลา ที่นายบริบูรณ์ชี้แจงต่อสื่อมวลชนและดีเอสไอ มีทั้งไทม์ไลนการนำเข้า การยื่นเอกสารขออนุญาตนำผ่าน รวมถึงกรณีที่ยื่นฟ้องเจ้าหน้าที่ 4 นาย ต่อศาลปกครอง ซึ่งเขาอ้างว่าเป็นผู้เกี่ยวข้องที่ทำให้บริษัทเขาเสียหาย และจนถึงขณะนี้คดีก็ยังอยู่ในการพิจารณาในศาลปกครอง



ส่วนเหตุผลที่เขาเชื่อว่าถูกเจ้าหน้าที่รัฐกลั่นแกล้ง เพราะก่อนหน้านั้นเขาร้องเรียนไปที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถึงพฤติกรรมเรียกรับผลประโยชน์ของเจ้าหน้าที่บางนาย ที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าดังกล่าว จึงอาจทำให้คนเหล่านั้นไม่พอใจและประกาศว่าจะไม่ให้สินค้าของเขาผ่านออกไปได้



ตอนนี้ตู้สินค้าทั้ง 41 ตู้ ของบริษัทที่นายบริบูรณ์ เป็นกรรมการ ถูกรวมอยู่ในกลุ่ม 161 ตู้ ที่กรมปศุสัตว์นำไปทำลายแล้ว โดยที่เขาระบุว่าได้พยายามยื่นเรื่องขออุทธรณ์ คัดค้านมาแล้วตลอดแต่ไม่เป็นผล เขาระบุด้วยว่าเขาพร้อมจะเปิดเผยข้อเท็จจริง และไม่ปกปิดตัวตน เพื่อต้องการให้เห็นว่าเขาไม่ได้รับความเป็นธรรม



ขณะที่หัวหน้าคณะพนักงานสอบคดีพิเศษ ระบุว่า ผู้ต้องหาในคดีนี้มีสิทธิ์ที่จะพูดหรือชี้แจง แต่พนักงานสอบสวนก็จะยึดตามข้อมูล พยานหลักฐานป็นสำคัญ และจะดำเนินคดีเหมือนอีก 8 บริษัทที่เหลือ ส่วนการชี้แจงข้อเท็จจริงของแต่ละบริษัท ก็มิสิทธิ์ที่จะแตกต่างกันได้



การเข้ารับทราบข้อกล่าวของนายบริบูรณ์ วันนี้ ทำให้มีกรรมการผู้มีอำนาจลงนามของทั้ง 10 บริษัทที่เกี่ยวข้องกับตู้คอนเทนเนอร์ 161 ตู้ ถูกแจ้งข้อกล่าวหาครบทั้งหมดแล้ว และอยู่ระหว่างขยายผลบางบริษัท ที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าก่อนหน้านี้อีกว่า 1 หมื่นตู้

คุณอาจสนใจ

Related News