DSI ขยายผลลุยปราบหมูเถื่อน แม็คโคร ยันไม่มีเอี่ยว ยินดีให้ความร่วมมือตรวจสอบ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยืนยันว่าคดีหมูเถื่อนและสินค้าเกษตรเถื่อนที่อยู่ภายใต้การดำเนินคดีของดีเอสไอ จะเดินหน้าต่อเนื่อง และขอให้ติดตามการทำงานของดีเอสไอนับจากนี้ ที่จะต้องเป็นที่พึ่งประชาชน



ขณะที่ชุดทำงานคดีหมูเถื่อนของดีเอสไอ ยืนยันว่า บุคคลที่ถูกออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่ม 1 คน เกี่ยวข้องทั้งเป็นบริษัทที่นำเข้า 161 ตู้ และยังอยู่เบื้องหลังสั่งนำเข้าชุดอื่นๆด้วย



ในบรรดาหมูเถื่อน 161 ตู้คอนเทนเนอร์ ที่นำเข้าโดยสำแดงเท็จและดีเอสไอดำเนินคดีแล้วนั้น ปรากฎว่า บริษัทเรนโบว์ กรุ๊ป เป็นบริษัทที่นำเข้าเพียง 1 ตู้ จากจำนวน 161 ตู้



อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นจำนวนที่น้อยมาก หากเทียบกับ อีก 9 บริษัท ที่นำเข้ามาบางรายถึง 20-300 ตู้



แต่ข้อเท็จจริงที่ยืนยันได้คือ 161 ตู้นี้เป็นเพียงที่ตกค้างเท่านั้น หากนับรวมกับที่สินค้าที่มาพร้อมกัน แต่ผ่านด่านเข้ามาได้แล้วนั้น จำนวนของผู้นำเข้าแต่ละราย จะแตกต่างจากที่เห็นอยู่ตอนนี้ และแน่นอนว่าจะเพิ่มมากกว่านี้



ข่าว มิติ ได้รับข้อมูลจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ว่า บุคคลที่ถูกดีเอสไอออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มอีกเมื่อวานนี้ เป็นหนึ่งในกรรมการผุ้มีอำนาจลงนามของบริษัทเรนโบว์ กรุ๊ปจำกัด หลังจากก่อนหน้านี้กรรมการ 1 คน เข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว และจากข้อมูลยังพบว่ารายนี้ นอกจากนำเข้าเองแล้ว ยังเกี่ยวข้องฐานสั่งให้นำเข้ามาด้วย



และนอกจากเรนโบว์ กรุ๊ปแล้ว กรรมการผู้มีอำนาจลงนามของบริษัทที่เหลือ ที่ถูกออกหมายจับแล้ว แต่ยังไม่เข้ามอบตัว ก็อยู่ระหว่างเตรียมเข้ารับทราบข้อกล่าวในไม่ช้านี้แล้ว



วันนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่าคดีนำเข้าหมูเถื่อนและสินค้าเกษตรเถื่อน ที่ดำเนินการโดยดีเอสไอจะไม่ชะงัก และเดินหน้าเอาผิดตามพยานหลักฐาน โดยระบุว่าขอให้ติดตามการทำงานของดีเอส ไอนับจากนี้ที่จะต้องเป็นที่พึ่งของประชาชนให้ได้



ขณะที่นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ก็ยืนยันว่าการเปลี่ยนตัวอธิบดีดีเอสไอ ไม่ใช่เพราะทำงานแล้วเจอตอหรืออุปสรรค แต่เป็นอำนาจและดำเนินการโดยรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม ที่ต้องใช้คนให้ถูกกับงาน และระบุว่าขณะนี้ไม่ได้มีเฉพาะหมูเถื่อน แต่มีทั้งเนื้อเถื่อน แพะเถื่อน และสินค้าเกษตรอื่นๆที่ต้องดำเนินปราบปรามจริงจัง



วันนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดปฎิบัติการพิเศษพญานาคราช ประกาศสงครามกับสินค้าเกษตรผิดกฎหมาย ที่ศูนย์เอกซเรย์และเทคโนโลยีศุลกากร สำนักงานศุลกากร ท่าเรือกรุงเทพ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม เพื่อปราบปรามสินค้าเถื่อนที่นำเข้ามาแล้วและกำหนดมาตรการป้องกันสินค้าเถื่อนที่จะเข้ามาอีก



อีกด้านหนึ่ง ประธานคณะผู้บริหารกลุ่มธุรกิจค้าส่งแมคโครและประธานคณะผู้บริหารกลุ่มธุรกิจสายงานบัญชีและการเงิน บ.ซีพีแอ็กซ์ตร้า จำกัด ออกเอกสารชี้แจงเพิ่มเติมว่า การที่ดีเอสไอนำหมายศาลเข้าค้นนั้น บริษัทให้ความร่วมมืออย่างดี และไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องนำเข้าหมูเถื่อน ส่วนที่รับซื้อมานั้น มีกระบวนการรัดกุม ตรวจสอบเอกสารจากราชการที่เกี่ยวข้องอย่างถูกต้องทุกขั้นตอน



ส่วนแม็คโคร ก็ออกแถลงการณ์อีกครั้ง ทั้งประณามการซื้อ ขายสินค้าที่ผิดกฎหมาย และให้ความร่วมมือดีเอสไอตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมระบุว่าการรับซื้อ ได้ตรวจสอบเอกสารราชการที่คุ้ทค่าต้องนำมาสำแดงทุกครั้ง จึงมั่นใจได้ว่าซื้ออย่างเปิดเผย และไม่เกี่ยวข้องกับสินค้าเถื่อนแต่อย่างใด



อย่างไรก็ตาม ประเด็นนี้ยังต้องติดตามใกล้ชิดเพราะดีเอสไอ ก็ยืนยันว่าการซื้อขายระหว่างห้างสรรพสินค้ากับบริษัทนำเข้า กระทำอย่างเปิดเผยตรงไปตรงมาจริง แต่เอกสารต่างๆที่เกี่ยวข้องกับขั้นตอนการนำเข้า ที่นำมาใช้สำแดงนั้น เป็นเอกสารจริง หรือลงนามโดยเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบจริงหรือไม่ นี่คือประเด็นที่ดีเอสไอต้องการตรวจสอบ และเป็นเหตุผลของหมายค้น เพื่อให้ห้างค้าส่งและค้าปลีกดังกล่าว ยื่นเอกสารคู่ฉบับของการซื้อขายดังกล่าว ให้ดีเอสไอ ตรวจสอบภายในกลางเดือนหน้า