กรมปศุสัตว์ แจงยิบ ปมจนท.ถูกกล่าวหาพัวพันหมูเถื่อน

3 มิติ ยังคงตามเกาะติดคดีหมูเถื่อนเพื่อให้เห็นความคืบหน้าคดี และให้เป็นการป้องกันปราบปราม และการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง วันนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ตั้งทีมเฉพาะกิจพญานาคราช เพื่อปราบปรามสินค้าเกษตรเถื่อนทุกชนิด โดยเฉพาะหมูเถื่อน ขณะที่กรมปศุสัตว์ ก็ออกเอกสารชี้แจงข้อเท็จจริง กรณีที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ แจ้งความให้เอาผิดอาญามาตรา 157 ต่อข้าราชการบางคน โดยกล่าวหาว่า พัวพันกรณีหมูเถื่อน



ประเด็นที่กรมปศุสัตว์ชี้แจงผ่านเอกสารประกอบด้วย กรณีที่นายอัจฉริยะ กล่าวโทษข้าราชการ 3 คน ปฎิบัติหน้าที่มิชอบ จากการตรวจพบโรคซาลโมเนลลา ในตับหมู 75 ตัน ในห้องเย็นที่มหาชัย แต่ทำลายเพียง 1.5 ตัน นั้น



ยืนยันว่าชุดพญาไท และตำรวจ ปคบ.เก็บตัวอย่างไปตรวจและพบติดเชื้อโรคจริง และได้นำสินค้าที่มีสติกเกอร์ DE ที่ตรวจพบเชื้อไปทำลายแล้วทั้งหมด 1,530 กิโลกรัม ส่วนตัวอย่างที่ไม่มีสติกเกอร์ DE ตรวจไม่พบเชื้อโรค จึงไม่มีเหตุอายัดไปทำลาย และผู้ประกอบการนำหลักฐานมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ได้ จึงไม่ดำเนินคดี



ประเด็นที่ร้องทุกข์กล่าวโทษ หัวหน้าด่านกักกันสัตว์ชลบุรีคนปัจจุบันและพวก ร่วมกันลักลอบนำของกลางตีนไก่ 2 ตู้ ไปขายโดยทุจริตนั้น เอกสารชี้แจงระบุว่ากรมปศุสัตว์ยังไม่ได้รับรายละเอียดข้อมูลการร้องเรียนว่าเป็นตีนไก่ตู้ไหน และช่วงเวลาใด



ส่วนการร้องทุกข์กล่าวโทษ นายอนุรักษ์ ม่วงทิม อดีตหัวหน้าด่านกักกันสัตว์ชลบุรี โดยอ้างเอกสารที่มีการบันทึกข้อมูลในใบปิดบัญชีของบริษัทที่ลักลอบนำเข้า "หมูเถื่อน" ระบุในช่องไม่มีใบเสร็จว่า จ่ายเงินให้ "หมออ๊อด" 30,000 บาท ถือว่า เป็นการรับสินบนและผิดอาญามาตรา 157 นั้น



กรมปศุสัตว์ ได้ส่งหนังสือไปที่ดีเอสไอ เพื่อขอหลักฐานดังกล่าวมาตรวจสอบว่ามีข้าราชการเกี่ยวข้องจริงหรือไม่ หากพบว่าเป็นเรื่องจริง ก็จะนำหลักฐานมาใช้ดำเนินคดี และระหว่างรอหลักฐานจาก DSI ได้ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ไว้แล้วพื่อความเป็นธรรมและชัดเจน



วันนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แถลงถึงการตั้งชุดเฉพาะกิจพญานาคราช มีเจ้าหน้าที่ประมาณ 50 คน เช่นนายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร / นายสมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ และนายบัญชา สุขแก้ว รองอธิบดีกรมประมง พร้อมด้วย พลตำรวจตรี เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เป็นต้น



เป้าหมายของชุด ฉก.พญานาคราช คือป้องกันและปราบปรามสินค้าเกษตร ปศุสัตว์ และสินค้าประมงผิดกฎหมาย และสนับสนุนเจ้าหน้าที่สารวัตรปศุสัตว์ สารวัตรประมงและสารวัตรเกษตรในการเร่งรัดตรวจสอบ ติดตาม และจับกุมผู้ลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรแบบผิดกฎหมาย โดยร่วมกับ ปปง.เพื่อยึดทรัพย์ด้วย



การประชุมวันนี้ ยังกำหนดภารกิจแรก คือให้กรมปศุสัตว์ กรมประมง และกรมวิชาการเกษตร ประสานความร่วมมือกับทุกจังหวัดจัดประชุมร่วมกับผู้ประกอบการ เพื่อเร่งขึ้นทะเบียนห้องเย็นทั่วประเทศ ซึ่งจากนี้จะเป็นการ Set Zero ระบบการตรวจสอบขบวนการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรผิดกฎหมายตั้งแต่ต้นทาง ให้รายงานความคืบหน้าก่อนการประชุมครั้งต่อไป และการประชุมจะมีขึ้นทุกๆ 15 วัน