สังคม

เจ้าของรถบรรทุก ร้องสอบตร. หลังถูกยึดรถ ฐานน้ำหนักเกินเพียง 10 กก.

โดย chiwatthanai_t

19 พ.ย. 2566

725 views

เจ้าของรถบรรทุกที่ถูกตำรวจภูธรโนนดินแดง จังหวัดบุรีรัมย์ จับและยึดรถ เพราะบรรทุกน้ำหนักเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดเพียง 10 กิโลกรัม ทั้งที่ยืนยันว่าได้ผ่านด่านชั่งน้ำหนักของกรมทางหลวงมาแล้วถึง 2 ด่าน ซึ่งข่าว 3 มิติได้เสนอเรื่องนี้ไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว


ล่าสุดเจ้าของรถบรรทุกพยายามหาหลักฐานมายืนยันว่าไม่ได้บรรทุกน้ำหนักเกิน และระหว่างถูกจับมีตำรวจพยายามขอเจรจาให้ความช่วยเหลือแต่เขาปฏิเสธ โดยนำหลักฐานทั้งหมดร้องเรียนกับนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.พรรคก้าวไกล และร้องต่อสมาคมขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ให้ช่วยตรวจสอบเรื่องนี้ เพราะมีสิ่งผิดปกติหลายอย่าง ทั้งการเจรจาให้ความช่วยเหลือและจ่ายเงินให้เจ้าของรถบรรทุกจำนวนหนึ่ง เพื่อไม่ให้ดำเนินการเรื่องนี้ต่อ


นายสุพร สำราญดี เจ้าของรถบรรทุกรายหนึ่งในจังหวัดสุรินทร์ นำหลักฐานบันทึกการใช้งานระบบจีพีเอส และบันทึกผ่านด่านชั่งน้ำหนักของกรมทางหลวง มาร้องขอความเป็นธรรมกับนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้แทนพรรคก้าวไกล และสมาคมขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย


ย้อนกลับไปวันที่ 5 พฤศจิกายน นายสุพร ถูกตำรวจจราจรโนนดินแดง จังหวัดบุรีรัมย์ จับกุมและยึดรถบรรทุก โดยอ้างว่านายสุพรไม่สามารถแสดงเอกสารใบชั่งน้ำหนักได้ จึงนำรถไปตรวจสอบน้ำหนักที่ลานมันบ้านคลองหิน โดยชั่งได้ 50,510 กิโลกรัม เกินกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ 10 กิโลกรัม


นายสุพรชี้แจงว่า แม้เอกสารชั่งน้ำหนักจากต้นทางจะเกินมาประมาณ 200 กิโลกรัม แต่ได้ตักสินค้าบางส่วนออกแล้ว และระหว่างทางได้เข้าชั่งน้ำหนักที่ด่านของกรมทางหลวง 2 แห่ง คือด่านพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี และด่านวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว ซึ่งน้ำหนักไม่เกินและผ่านด่านมาได้


ตำรวจภูธรโนนดินแดง สรุปสำนวนคดีส่งพนักงานอัยการและมีความเห็นสั่งฟ้องนายสุพร ฐานใช้ยานพาหนะบรรทุกน้ำหนักเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดบนทางหลวงแผ่นดิน แต่ศาลมีคำสั่งให้หาพยานหลักฐานเพิ่มเติม


นายสุพร พยายามหาหลักฐานมาหักล้างข้อกล่าวหาของตำรวจ จุดแรกคือรายงานการชั่งน้ำหนักจากสถานีตรวจสอบน้ำหนักทั้ง 2 แห่งของกรมทางหลวง โดยเฉพาะที่ด่านวัฒนานครซึ่งเป็นจุดสุดท้ายก่อนถูกจับกุม บันทึกของด่านวัฒนานคร ระบุว่ารถของนายสุพร เข้าชั่งวันที่ 5 พฤศจิกายน เวลา 8:33 นาที น้ำหนักที่วัดได้ 48,780 กิโลกรัม ไม่เกินที่กฎหมายกำหนดไว้ 50,500 กิโลกรัม


จากด่านวัฒนานคร บันทึกสัญญาณจีพีเอสเป็นหลักฐานว่ารถบรรทุกเริ่มเคลื่อนที่เวลาประมาณ 8:30 นาที และความเร็วไม่ลดลงจนรถหยุดอีกครั้งในเขตตำบลโนนดินแดง นี่เป็นหลักฐานที่ยืนยันได้ว่ารถไม่ได้จอดเพื่อใส่สินค้าเพิ่ม ก่อนจะถูกตำรวจพาไปชั่งที่ลานมันบ้านคลองหิน ได้นำหนัก 50,510 กิโลกรัม ระหว่างถูกจับนายสุพร ระบุว่าตำรวจพยายามให้คุยโทรศัพท์กับบุคคลหนึ่งที่อ้างว่าช่วยเหลือได้ แต่เขาปฏิเสธ


เมื่อได้ประกันตัวนายสุพร นำสินค้าไปลง โดยชั่งน้ำหนักได้ 50,070 กิโลกรัม และมีบุคคลหนึ่งพยายามจ่ายเงินให้เขา โดยไม่บอกวัตถุประสงค์


นายวิโรจน์ ย้ำว่านี่คือกรณีตัวอย่าง ที่ควรผลักดันให้เกิดการแก้ไขบทลงโทษให้มีความเหมาะสม ซึ่งจะสร้างความเป็นธรรมให้ผู้ประกอบการรถบรรทุกที่ไม่ได้มีเจตนาทำผิด แต่ขณะเดียวกันก็ตั้งข้อสังเกตว่าจำนวนการดำเนินคดีของตำรวจที่สะท้อนว่าปัญหาส่วยรถบรรทุกมีแนวโน้มดีขึ้นนั้น แท้จริงแล้วเป็นเพียงการจับผู้ประกอบรายเล็กหรือไม่


นายกสมาคมขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยแสดงความเห็นว่า กรณีนี้เจ้าหน้าที่ควรเปิดโอกาสให้เจ้าของรถแสดงหลักฐาน หรือใช้การตรวจสอบที่ได้มาตราฐานเพื่อป้องกันข้อมูลคลาดเคลื่อนจนนำไปสู่การดำเนินคดีอย่างไม่เป็นธรรม


คดีนี้ยังรอบทสรุป เพราะตำรวจต้องสอบพยานและรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติมให้พนักงานอัยการ รวมทั้งคำตอบว่าบุคคลที่ขอเจรจากับนายสุพร และนำเงินมาให้ 1 หมื่นบาทมีวัตถุประสงค์อะไร

คุณอาจสนใจ

Related News