สังคม

ดีเอสไอลุยค้น 6 จุดนครปฐม ขยายผลเครือข่ายฮั้วประมูล 'กำนันนก'

โดย panisa_p

17 พ.ย. 2566

133 views

ดีเอสไอค้น 6 จุด เป้าหมายในจังหวัดนครปฐม เกี่ยวข้องกับการฮั้วประมูลของกำนันนก หนึ่งในนั้นเป็นบ้านของ สจ.เอดำ ขณะที่ สจ.เอดำ ยืนยันแค่รู้จักกันแต่ไม่เคยร่วมงาน



ชุดสืบสวนกองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ หรือ กองคดีฮั้วประมูล กรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมกับกองบังคับการปราบปราม และเจ้าหน้าที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ นำหมายค้นศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เข้าค้นบ้านเป้าหมายเครือข่ายที่เกี่ยวข้องในการฮั้วประมูลกับบริษัทของกำนันนก จำนวน 6 จุดทั่วจังหวัดนครปฐม



โดยจุดหลักคือจุดที่ 1 เป็นบ้านพักของนายวิชาญ พรหมเอียด หรือ สจ.เอดำ ที่ตำบลสนามจันทร์ อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม ใช้ชื่อในวงการว่า "เอ บ้านใหญ่ นครปฐม" ปัจจุบันนายวิชาญ ดำรงตำแหน่ง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม



จุดที่ 2 ในตำบลตลาดจินดา อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม

จุดที่ 3 ในตำบลหนองงูเหลือม อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม

จุดที่ 4 ที่ตำบลพระปฐมเจดีย์ อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม

จุดที่ 5 ในตำบลตาก้อง อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม

และจุดที่ 6 ที่ตำบลทุ่งขวาง อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม



ร้อยตำรวจเอก วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า การเข้าค้นเป็นการขยายผลจากการค้นครั้งที่แล้ว ตามพยานหลักฐาน 4 องค์ประกอบ คือพยานบุคคล เส้นทางการเงิน หลักฐานอิเล็กโทรนิค และความสัมพันของบุคคลในเครือข่ายการจัดฮั้วประมูล



จุดสำคัญวันนี้คือ บ้านของ สจ.เอดำ ซึ่ง สจ.เอดำ ให้ความร่วมมือดี โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาตรวจค้น นานกว่า 2 ชั่วโมง ได้หลักฐานเป็นโทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิค เอกสารเกี่ยวกับโครงการก่อสร้าง สมุดบัญชีธนาคาร ขณะนี้ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ 19 โครงการจาก 2 บริษัทกำนันนก คือ บริษัท ป.พัฒนารุ่งโรจน์ จำกัดื และ บริษัท ป.รวีกนก จำกัด



ด้าน สจ.เอดำ ออกมาเปิดใจยอมรับ รู้จักกับกำนันนกจริง เพราะเป็นสจ.ในพื้นที่ จึงต้องรู้จักกำนันในพื้นที่ แต่ไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว และไม่เคยไปร่วมงานเลี้ยงหรืองานวันเกิดของกำนันนก โดยยืนยันว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือรู้เห็นเกี่ยวกับการประมูลของบริษัทกำนันนก เพราะเป็นเรื่องที่บริษัทเอกชนต้องแข่งขันราคากัน แม้เมื่อ 10 ปี ที่แล้ว สจ.เอดำ จะยอมรับว่าเคยมีบริษัทรับเหมาในพื้นที่นครปฐม แต่เมื่อมาเล่นการเมืองท้องถิ่นก็ได้เลิกการทำบริษัทดังกล่าวไป



สำหรับ สจ.เอดำ เมื่อปี 2559 เคยถูกเจ้าที่เข้าตรวจคนบ้านพักพบอาวุธปืนจำนวนมากจนถูกขึ้นบัญชีดำเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ แต่การตรวจคนครั้งนี้เจ้าที่พบเพียงอาวุธปืนบีบีกัน 3 กระบอกที่ไม่เข้าข่ายการกระทำผิด ซึ่งเจ้าตัวอ้างว่านำมาใช้เพื่อไล่สัตว์ที่เข้ามาในบ้านเพราะบ้านไม่มีรั้ว

คุณอาจสนใจ