ผู้ประกอบการรถบรรทุกรายย่อย ร้องสื่อ 'ส่วยทางหลวง' คืนชีพ ยังมีกลุ่มติดต่อให้ซื้อสติกเกอร์

นายกรัฐมนตรี สั่งการในวันนี้ นั่นคือ ปัญหาส่วยทางหลวง ส่วยสติกเกอร์ ซึ่งเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ข่าว 3 มิติ เกาะติดมาตลอด ซึ่งวันนี้ สมาคมที่เกี่ยวข้องกับรถบรรทุก ก็ได้ออกมาให้ข้อมูลว่า ส่วยสติกเกอร์ และส่วยทางหลวง กำลังค่อยๆ กลับมาแล้ว


วันนี้ ยังมีผู้ประกอบการรายย่อย ที่มาร้องเรียนกับข่าว 3 มิติ ถึงเรื่องการไม่จับ ไม่ริบรถ จริงจังกับผู้บรรทุกน้ำหนักเกินรายใหญ่ ที่จ่ายส่วย แต่กับรายเล็ก ที่บรรทุกเกินเพียง 10 กิโลกรัม ขอเน้นว่า 10 กิโลกรัมนะครับ คิดง่ายๆคือ แค่ซื้อข้าวสาร 2 ถุงใส่รถเพิ่มขึ้นมาน้ำหนักก็เกิน 10 กิโลกรัมได้ทันที กรณีอย่างนี้ กลับถูกจับโดยไม่มีการตรวจสอบความผิดปกติของเครื่องชั่ง ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีกลุ่มคนพยายามติดต่อ ขอให้ซื้อสติกเกอร์ เพื่อผ่านตลอด


นี่คือรถของกลางที่ถูกจับเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2566 เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ในข้อหาบรรทุกน้ำหนัก เกินกว่าที่กฏหมายกำหนด 10 กิโลกรัม ที่บริเวณด่านจุดตรวจความมั่นคง หนองเสม็ด หมู่ 3 ตำบลลำนางรอง อำเภอโนนดินแดง จังหวัดบุรีรัมย์ นายสมพร สำราญดี เป็นผู้ขับขี่


นายสมพร เปิดเผยคลิปภาพ และหลักฐานเอกสารบันทึกจับกุม ร้องเรียนกับข่าวสามมิติ ว่าสาเหตุที่ถูกจับ น่าจะมาจากมีผู้ประกอบการรถบรรทุกรายใหญ่ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ กลั่นแกล้ง บีบบังคับให้ซื้อสติกเกอร์เคลียร์ส่วย เนื่องจากตนเองไม่ยอมจ่ายส่วย ทั้งๆที่วันเกิดเหตุนั้น เขาก็ได้บรรทุกสินค้าจากโรงงานมีบิลใบเสร็จของตราชั่งระบุน้ำหนักไม่เกินกฏหมายกำหนด และก็ได้วิ่งผ่านตราชั่งถาวรของสำนักงานควบคุมน้ำหนักยานพาหนะ กรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม หลายต่อหลายด่านไม่ถูกจับ


ซึ่งปัญหาลักษณะนี้ ประธานที่ปรึกษาสมาคมขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยยอมรับว่า มีอยู่จริงเพราะได้รับร้องเรียนผ่านเพจของสมาคม อยู่อย่างต่อเหนื่อง


ทางออกการจะปราบปรามส่วยให้หมดได้ นายศุภศักดิ์ รุ่งเจิดฟ้า ประธานที่ปรึกษาสมาคมขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ยังบอกอีกว่าน่าจะลำบากเพราะดูจากสถิติการจับกุมจากสำนักงานควบคุมน้ำหนักยานพาหนะ กรมทางหลวง แล้วก็ยังมีการแบกน้ำหนักกันเป็นร้อยตัน อยู่เลยโดยเฉพาะภาคอีสาน