นายกฯ ขอแรงงานไทยอพยพจาก 'อิสราเอล' กลับประเทศโดยด่วน หลังมีความรุนแรงมากขึ้น

กระทรวงการต่างประเทศ ออกเอกสารแสดงท่าที กรณีมีการเผยแพร่คลิปภาพผู้ถูกสังหารที่อ้างว่าเหยื่อเป็นคนไทย ในระหว่างการประชุมสหประชาชาติ โดยไม่เห็นด้วยกับการเผยแพร่ภาพที่ไม่คำนึงถึงและไม่เคารพต่อผู้เสียชีวิตและครอบครัว ขณะที่นายกรัฐมนตรีระบุว่าจะพยายามเต็มที่ เพื่อให้แรงงานไทยกลับประเทศทั้งหมด ก่อนสถานการณ์จะวิกฤติยิ่งกว่านี้ รวมถึงจะมีรัฐมนตรีเดินทางไปตะวันออกกลาง เพื่อเจรจาช่วยตัวประกันชาวไทยด้วย


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่าสถานการณ์ขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น ยิ่งทำให้เป็นห่วงคนไทยและแรงงานไทยที่ไปทำงานในอิสราเอล เพราะรายงานข่าวจากสำนักข่าวกรอง และฝ่ายความมั่นคง ยืนยันตรงกันว่าสถานการณ์ยังไม่มีแนวโน้มดีขึั้น และยังลามไปพื้นที่ตอนเหนือของอิสราคือเลบานอนด้วย จึงอยากให้แรงงานตัดสินใจกลับทั้งหมดโดยเร็ว เพราะหากสงครามขยายไปสู่การปฎิบัติการภาคพื้นดินมากขึ้น จะทำให้การอพยพโดยเครื่องบินทำได้ยากมากขึ้นกว่าเดิม อีกทั้งเส้นทางคมนาคมก็อาจถูกตัดขาดด้วย


นายกรัฐมนตรีระบุว่า ขณะนี้อพยพแรงงานไทยกลับมาได้วันละประมาณ 1 พันคน ขณะที่แรงงานไทยที่แจ้งความประสงค์จะเดินทางกลับอยู่แล้ว ก่อนหน้านี้ก็มี 5-6% ที่เปลี่ยนใจ แต่ก็หวังว่าแรงงงานจะเปลี่ยนใจกลับมาเพิ่มมากขึ้น เพื่อจะให้หาเที่ยวบินรองรับเพิ่มขึ้นขึ้น โดยความมั่นคงและกลาโหม ให้ความสำคัญและช่วยดูแลเรื่องการลำเลียงคนอย่างเต็มที่ จึงเดินหน้าช่วยเหลือทุกทาง รวมถึงเร็วๆนี้จะมีรัฐมนตรี เดินทางไปตะวันออกลางเพื่อหารือช่วยเหลือตัวประกันด้วย


นายกรัฐมนตรี ยังระบุว่าวันอังคารนี้จะมีประชุมครม. ซึ่งจะมีมาตรการส่งเสริมให้แรงงานไทยกลับประเทศ ไม่ว่าจะเป็นมาตรการเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำระยะยาวเพื่อนำไปใช้หนี้ รวมถึงกระทรวงแรงงานที่จะเสนอต่อ ครม.ด้วย


สำหรับกรณีคลิปภาพที่ฑูตอิสราเอล นำเสนอในการประชุมสหประชาชาติ โดยระบุว่าเป็นภาพแรงงานไทยถูกทำร้ายอย่างทารุณนั้น นายกรัฐมนตรี เห็นว่าเป็นเรื่องไม่เหมาะสม เพราะสงครามโหดร้ายมากพออยู่แล้ว จึงไม่ควรเติมน้ำมันเข้าไปในกองเพลิงเพราะไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้ง

ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศ แสดงจุดยืนต่อกรณีคนไทยถูกสังหารอย่างไร้มนุษยธรรม ถูกทำร้าย และถูกจับเป็นตัวประกัน ในสถานการณ์ความรุนแรงในอิสราเอล-กาซา

โดยระบุว่าตามที่เมื่อเร็วๆ นี้ ในการประชุมสหประชาชาติได้มีการแสดงคลิปภาพของเหยื่อที่ถูกสังหารอย่างเหี้ยมโหด โดยอ้างว่าเป็นคนไทยนั้น ภาพการสังหารดังกล่าวได้สร้างความสะเทือนใจอย่างยิ่ง ไม่ใช่เฉพาะต่อประชาชนคนไทยเท่านั้น แต่ต่อคนทั่วโลกด้วย


กระทรวงการต่างประเทศรู้สึกสะเทือนใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นรายงานคลิปภาพของเหยื่อ และไม่เห็นด้วยกับการเผยแพร่ภาพที่ไม่คำนึงถึงและไม่เคารพต่อผู้เสียชีวิตและครอบครัว


กระทรวงการต่างประเทศประณามการเข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์ ไม่ว่าจะกระทำต่อคนชาติใด โดยฝ่ายใด และด้วยเหตุผลใดก็ตาม


กระทรวงต่างประเทศเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่มีพี่น้องคนไทยเสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบนี้แล้วถึง 32 คน บาดเจ็บ 19 คน และถูกจับไป 19 คน (ตัวเลขสถานะคืนวันที่ 28 ตุลาคม 2566) และขอเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวประกันทุกสัญชาติทุกคนในทันที


สำหรับความคืบหน้าการอพยพคนไทยจากอิสราเอลนั้น วันนี้กองทัพอากาศจัดเครื่องบิน Airbus 340-500 ไปรับคนไทยในอิสราเอล เที่ยวบิน RTAF230 (Fujairah 2) เบื้องต้นมีผู้อพยพ 145 คน เที่ยวบินนี้ ออกเดินทาง เมื่อเวลา 11.30 น. มีกำลังพลกองทัพอากาศปฏิบัติภารกิจ พร้อมบุคลากรกระทรวงการต่างประเทศ ที่ร่วมเดินทางช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกแก่คนไทย ให้ภารกิจอพยพคนไทยในอิสราเอล มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เที่ยวบินนี้ จะลงจอด ณ สนามบินฟูไจราห์ ของดูไบ รับคนไทยที่เดินทางมารอล่วงหน้าแล้ว ซึ่งกำหนดการจะกลับถึงไทยในวันพรุ่งนี้ เวลา 02.20 นาที


ส่วนนักศึกษาอาชีวะชุดนี้ ที่เมื่ออาทิตย์ก่อนได้เดินทางกลับถึงไทยมาแล้ว 7 ราย จึงเหลือนักศึกษายังอยู่ฝึกงานที่ประเทศอิสราเอลอีก 71 ราย และอาจารย์ 1 คน รวม 72 คน /โดยทั้งหมดนี้มีคำยืนยันจากกระทรวงศึกษาธิการแล้วว่า ทุกคนจะออกจากอิสราเอลในวันนี้ และเดินทางกลับถึงไทยในวันพรุ่งนี้ (30 ตค.) เวลา 12.50 น. ที่สนามบินสุวรรณภูมิ