คนไทยในอิสราเอล ดับแล้ว 30 ราย ด้านรบ.ประสานประเทศที่ 3 อพยพไปพักรอ

การช่วยเหลือแรงงานไทยในอิสราเอล ล่าสุด กระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันว่า มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 1 คน รวมขณะนี้ คนไทยเสียชีวิต จากสถานการณ์ในอิสราเอลแล้ว 30 คน มีผู้ขออพยพกลับเพิ่มเป็นกว่า 8 พันคน ทางรัฐบาลได้ประสาน ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ให้เป็นที่พักระหว่างรอรับกลับประเทศ



นางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันยอดคนไทยเสียชีวิต ในอิสราเอลล่าสุด ณ วันที่ 18 ตุลาคม



มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 คน รวมเสียชีวิตเป็น 30 คน /บาดเจ็บ 16 คน (เท่าเดิม) / และถูกจับตัวไป 17 คน



ขณะที่ยอดลงทะเบียนขออพยพกลับไทย จำนวน 8,160 คน ในจำนวนนี้ อพยพแล้ว 7 เที่ยวบิน รวม 926 คน ส่วนคนที่ระบุไม่ขอกลับ มี 110 คน



โดยกระทรวงการต่างประเทศยืนยันว่าทุกคนที่มีความประสงค์จะกลับบ้านจะต้องได้กลับบ้านตามความประสงค์ ขณะนี้มีการจัดศูนย์พักพิงให้กับแรงงานไทยถึง 7 โรงแรม เพื่อใช้เป็นสถานที่พักพิงก่อนเดินทางกลับไทย มีคนไทยมาพักที่ศูนย์พักพิง 593 คน และจะทยอยเดินทางขึ้นเครื่องบินกลับไทยต่อไป ซึ่งทางการไทยพยายามจัดเที่ยวบินทุกวัน ให้สามารถอพยพได้อย่างน้อยวันละ 400 คน



นอกจากนี้ยังได้กำหนดจุดพักรอในประเทศที่ 3 คือที่นครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เนื่องจาก สามารถจ้างเหมาเครื่องบินที่มีขนาดใหญ่กว่ามาอพยพได้เพิ่มขึ้น



ขณะที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง บอกว่า จากการที่เมื่อวานนี้ ได้พบปะกับนายอันโตนิโอ กุเตอเรส เลขาธิการสหประชาชาติ (UN) และ ผู้นำหลายประเทศ ระหว่างงานเลี้ยงรับรองที่ประธานาธิบดีจี สี จิ้นผิง เป็นเจ้าภาพ ทุกคนแสดงความห่วงใยกับสถานการณ์ที่อิสราเอล และทุกคนมั่นใจว่าสถานการณ์จะเคลื่อนไปในทิศทางที่เลวร้ายลง ซึ่งได้แจ้งกับเลขาธิการยูเอ็นว่า ไทยเป็นประเทศที่ไม่ได้อยู่ในความขัดแย้ง แต่กลับเป็นผู้ที่สูญเสียมากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากสหรัฐฯ



ซึ่งเลขาฯ ยูเอ็นแสดงความตกใจ และแสดงความเห็นใจมายังประเทศไทย พร้อมแจ้งว่า ในวันที่ 19 ตุลาคม จะเดินทางไปอียิปต์และไปยังจุดที่มีความขัดแย้ง ซึ่งเข้าใจว่าไปกดดันให้มีการยุติโดยสันติภาพให้เร็วที่สุด แต่ก็เชื่อว่าสถานการณ์ก็ไม่ดีเท่าไหร่ และแสดงความห่วงใยอย่างมาก พร้อมเป็นกำลังใจให้ประเทศไทย



นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี บอกถึงแผนการให้ความช่วยเหลือคนไทยได้กลับประเทศเพิ่มขึ้นด้วย



ส่วน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ส่งเครื่องบิน โบอิ้ง 777-200ER ไปรับแรงงานไทยยังกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล จากที่ลงทะเบียนไว้ 280 คน แต่กลับมาจริง 266 คน โดยเที่ยวบิน ทีจี 8951 ออกเดินทางจากกรุงเทลอาวีฟ เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม เวลา 13.38 นาที ถึงท่า ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อเวลา 05.20 น. วันนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่การบินไทยส่งเครื่องบินแบบเหมาลำ ไปรับแรงงานไทยและบินตรงกลับทันที



โดยมีเจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงานและกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ไปรับพร้อมให้ความช่วยเหลือตามระเบียบที่กำหนดไว้ก่อนหน้านี้

แรงงานไทยบางส่วนเมื่อมาถึง ก็ประสงค์จะเดินทางภูมิลำเนาทันที



ส่วนที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 กองทัพอากาศ จัดเครื่องบิน AirbusA340-500 ออกเดินทางไปรับคนไทยในอิสราเอล จำนวน 145 คน เป็นเที่ยวบินที่ 2 ออกเดินทางในช่วงเช้าวันนี้ โดยมี พลอากาศเอก พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ สรุปแผนการปฏิบัติ พร้อมทั้งให้กำลังใจกำลังพล และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ทั้งนี้ เที่ยวบินนี้ มีกำหนดเดินทางกลับถึงท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ในวันพรุ่งนี้เวลา 13.40 น.