สังคม
นายกฯ ลั่นคนอยากได้เงินดิจิทัล ต้องช่วยส่งเสียง อย่าปล่อยคนค้านจนถูกยับยั้ง
14 ต.ค. 2566
19 views
ในการลงพื้นที่ที่จังหวัดพิษณุโลกครั้งนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยังได้แสดงท่าทีถึงนโยบายเงินดิจิตัลวอลเล็ต 10,000 บาทด้วย โดยถามกับประชาชนที่มาต้อนรับว่า หากต้องการให้รัฐบาลผลักดันโครงการดังกล่าวต่อไป ก็ต้องช่วยกันเปล่งเสียงออกมา
นายเศรษฐา ยังกล่าวยืนยันต่อประชาชน ว่ารัฐบาลพร้อมที่จะรับฟังความคิดเห็นของทุกคน และพยายามที่จะช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างสุดความสามารถ เพราะเป็นรัฐบาลของประชาชน และตระหนักดีถึงปัญหาความเดือดร้อนดังกล่าว ที่ผ่านมา จึงพยายามลดค่าไฟ ลดค่าน้ำมันเชื้อเพลิง และ พยายามผลักดันนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อทำให้เงินเข้ากระเป๋าของประชาชนมากยิ่งขึ้น
ดังนั้นหากประชาชนทุกคนอยากได้เงินจากโครงการนี้ ภายในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2567 ขอให้ทุกท่านเปล่งเสียงออกมา อย่ายอมให้คนที่ไม่เห็นด้วยมาทำให้นโยบายดังกล่าวไม่เกิดขึ้น ย้ำว่าอย่านิ่งเฉย หากชอบและมีความสุขก็เปล่งเสียงออกมาบ้าง
ทางด้านนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต เปิดเผยว่า กระแสข่าวว่าจะมีการปรับลดวงเงินโครงการจาก 5.6 แสนล้านบาท เหลือ 4 แสนล้านบาท และ ปรับกลุ่มผู้ได้รับสิทธิ์ได้รับเงินดิจิทัลเป็นกลุ่มผู้ด้อยโอกาสเท่านั้น เรื่องนี้ ไม่ถูกต้องทั้งสิ้น ยังไม่มีการหารือในชั้นคณะอนุกรรมการ และไม่มีข้อสรุปใด ๆ ทั้งสิ้น
นายจุลพันธ์ กล่าวว่า นโยบายนี้ เป็นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ใช่นโยบายดูแลกลุ่มผู้ยากไร้ หรือ นโยบายสงเคราะห์ แต่เป็นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจให้ทั่วถึง แต่เมื่อมีเสียงคัดค้าน ข้อเสนอแนะ ก็พร้อมรับฟัง เช่น มาตรการสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริงหรือไม่ เพราะจะเป็นการนำเงินดิจิทัลไปทดแทนวงเงินใช้จ่ายปกติเท่านั้น ต้องเอาประเด็นนี้มาพิจารณา
สำหรับกระบวนการได้สิทธิ์ดิจิทัลวอลเล็ต ยืนยันว่าไม่ใช่ลงทะเบียน แต่ต้องมีกระบวนการพิสูจน์ตัวตนเพราะเป็นไปตามระเบียบและกฎหมายของ ธนาคารแห่งประเทศไทย เพราะเป็นการใช้เงินดิจิทัลเทียบเงินบาท จากข้อมูลในมาตรการต่าง ๆ ที่ผ่านมา มีประชาชน ยืนยันตัวตนแล้วกว่า 40 ล้านคน ยังเหลืออีก 10 กว่าล้านคน ต้องยืนยันตัวตนเพิ่มเติม เป็นการยืนยันรับสิทธิ์ ไม่ใช่การพิสูจน์สิทธิ์
นายจุลพันธ์ ย้ำด้วยว่า รัฐบาลพร้อมรับฟังข้อเสนอให้ปรับลดวงเงิน แต่กลไกต้องอยู่ในกรอบเหมาะสม และไม่กระทบเศรษฐกิจโดยรวม แต่ละสัปดาห์ก็แบ่งงานกันไปทำชัดเจน เพื่อสามารถมาทำโครงการได้ โดยให้มีผลกระทบน้อยสุด ซึ่งเป็นไปได้ ใช้น้อยกว่า 5.6 แสนล้านบาท
แท็กที่เกี่ยวข้อง เงินดิจิทัล ,แจกเงินดิจิทัล ,นโยบายเงินดิจิทัล ,แจกเงิน1หมื่น