สังคม

กระทรวงเกษตรฯ รับหมูเถื่อน 161 ตู้ ทำลาย ด้านดีเอสไอ เร่งสอบเส้นทางเงิน สาวไส้เอาผิดทั้งวงจร

โดย panwilai_c

29 ก.ย. 2566

139 views

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รับมอบตู้คอนเทนเนอร์บรรจุหมูเถื่อน 161 ตู้ จากกรมศุลกากร เพื่อนำไปทำลาย พร้อมกับประกาศสงครามการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรเถื่อนทุกชนิด ขณะที่ข่าว 3 มิติ เกาะติดความคืบหน้าการดำเนินคดี บริษัทผู้นำเข้า พบว่ามีผู้เกี่ยวข้องเพิ่มอีก 7 ราย ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ อยู่ระหว่างสืบสวนเส้นทางการเงินเพื่อเอาผิดให้ครบวงจร



คอนเทนเนอร์ บรรจุหมูเถื่อนที่ตกค้างอยู่ในท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ซึ่งมี 161 ตู้ ถูกคัดเลือก 10 ตู้ แล้วทะยอยลำเลียงไปสำนักงานชลประทานที่ 9 ชลบุรี เพื่อเผาทำลายด้วยเครื่องกำจัดซากสัตว์ติดเชื้อของกรมปศุสัตว์ เพราะเป็นหมูเถื่อนที่นำเข้าผิดกฎหมาย และดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษตั้งแต่ปลายเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา



วิธีการทำลายคือใช้เตาเผาไร้ควัน ส่วนที่เหลืออีก 151 ถูกถอดปลักเครื่องนำความเย็นทั้งหมดแล้ว และจะทะยอยนำไปฝังกลบที่จังหวัดสระแก้ว ตามเป้าหมายคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 15 ตุลาคมนี้



รองอธิบดี ดีเอสไอเปิดเผยกับข่าว 3 มิติว่า พนักงานสอบสวนคดีพิเศษคดีนี้อยู่ระหว่างขยายผลเส้นทางการเงินผู้เกี่ยวข้อง คืบหน้าไปกว่าร้อยละ 80 แล้ว นอกจากนี้ยังพบว่า มีผู้เกี่ยวข้องเพิ่มอีก 7 ราย รวม 17 ราย ทั้งหมดเคยนำเข้าตู้คอนเทนเนอร์รวมกันกว่า 2,385 ตู้



รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งไปเป็นประธานKick off ทำลายเนื้อหมูวันนี้ ระบุว่าได้ประกาศสงครามการนำเข้าสินค้าเถื่อนทุกชนิด / รวมถึงตั้งคณะทำงานติดตามข้อเท็จจริง กรณีสงสัยว่ามีคอนเทนเนอร์อีกหลายร้อยตู้ ที่สงสัยว่าอาจมีเนื้อหมูเถื่อนตกค้างอยู่แต่สำแดงเป็นสินค้าอื่น



สำหรับคอนเทนเนอร์หมูเถื่อนทั้ง 161 ตู้ พบว่านำเข้าจากหลายประเทศเช่นบราซิล อาเจนตินา เยอรมัน เป็นต้น มีน้ำหนักรวมกัน 4 ล้าน 3 แสนกิโลกรัม มูลค่ากว่า 567ล้านบาท หากเล็ดลอดไปสู่ตลาดได้ ก็จะขายในถูกกว่าหรือเท่ากับเนื้อหมูของเกษตรกรไทย แต่ต้นทุนถูกกว่า ทำให้ผู้เลี้ยงในประเทศเสียหาย และหากดำเนินคดีกับชบวนการนี้ไม่ได้ ก็ยากที่จะสกัดปัญหาเนื้อหมูเถื่อนได้



คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษชุดเดียวกันนี้ เพิ่งนำหมายศาลอาญาไปตรวจค้นโรงงานขายส่งเนื้อสัตว์ 2 แห่งที่จังหวัดราชบุรี โดยโรงงานหนึ่งในสองแห่งนี้ มีสามีของ สส.พรรคพลังประชารัฐ จังหวัดราชบุรี เขต 2 เป็นเจ้าของด้วย ขณะที่หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ระบุว่าการไปตรวจค้น ยังไม่พบว่าเกี่ยวข้องกับกรณีตู้คอนเทนเนอร์ทั้ง 161 ตู้ แต่ดีเอสไอ ได้ข้อมูลจากกรมปศุสัตว์ว่า ตัวเลขการเคลื่อนย้ายสุกรมีชีวิตเข้า กับซากสุกรที่นำออก ของบริษัทนี้ ไม่สัมพันธ์กัน จึงแจ้งให้โรงงานนำหลักฐานเข้าชี้แจงในวันที่ 20 ตุลาคม



คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 59/2566 นำหมายศาลอาญาเข้าค้นบริษัทกาญจนา เฟรช พอร์ค ที่นายวิวัฒน์ นิติกาญจนา เป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงชื่อผูกพันธ์บริษัท และเป็นคู่สมรของนางบุญยิ่ง นิติกาญจนา สส.พรรคพลังประชารัฐเขต 2 จังหวัดราชบุรี ซึ่งดีเอสไอนำหมายศาลเข้าค้นเมื่อ 26 กันยายนที่ผ่านมา



ดีเอสไอระบุว่าเหตุแห่งการเข้าค้น เป็นเพราะมีข้อมูลสงสัยความผิดปกติปริมาณการย้ายสุกรมีชีวิตเข้า และออกในโรงงานของบริษัท ที่ไม่สัมพันธ์กัน



เช่น ปี 2564 มีสุกรมีชีวิตเข้า 178,890 ตัว เมื่อชำแระแล้ว ซากสุกรที่ได้ 17,889,000 กิโลกรัม ซากสุกรนำเข้า 559,079 กิโลกรัม รวมซากทั้งหมดทั้งสุกรมีชีวิต ชำแระแล้ว และซากสุกรนำเข้า เป็น 18,448,079 กิโลกรัม แต่ตามข้อมูลพบว่าซากสุกรนำออกจากบริษัทกาญจนาเฟรชพอรค์ จำนวนทั้งหมด 26,169,539 กิโลกรัม จึงมีส่วนต่างของซากสุกรที่นำออก เกินกว่าที่นำเข้าของปี 2564 จำนวน 7,721,460 กิโลกรัม



นอกจากนี้ ตามข้อมูลยังพบว่า ในปี 2565 ทั้งปี มีส่วนต่าง 906,250 กิโลกรัม



หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนยืนยันว่า ยังไม่พบว่าบริษัทกาญจนาเฟรชพอร์ค เกี่ยวข้องกับคอนเทนเนอร์ 161 ตู้ ที่ท่าเรือแหลมฉบัง แต่ตัวเลขสุกรมีชีวิต เมื่อคำนวณตามสัดส่วนของเนื้อสุกรที่จะได้ รวมกับซากสุกรที่นำเข้าแล้ว พบว่าไม่สัมพันธ์กับซากสุกรที่นำออก ซึ่งการที่ตัวเลขไม่สัมพันธ์กันนั้น เป็นประเด็นที่บริษัทต้องชี้แจง



ก่อนหน้านี้ ดีเอสไอชุดเดียวกันนี้ ก็นำหมายค้นเข้าค้น บริษัท วี.ซี.มีท โปรเซลซิ่ง จำกัด อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี ด้วยเหตุสงสัยเดียวกัน เช่น เฉพาะปี 2564 สุกรมีชีวิตนำเข้า 280,521 ตัว ชำแระแล้วได้ซาก 28,052,100 กิโลกรัม ซากสุกรนำเข้า 50,265 กิโลกรัม รวมซากทั้งหมด 28,102,365 กิโลกรัม แต่จากข้อมูลพบว่ามีซากสุกร ส่งออก 28,340,313 กิโลกรัม มีส่วนเกิน 237,948 กิโลกรัม



หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนดีเอสไอ ยืนยันว่าข้อมูลเหล่านี้ยังไม่ใช่สิ่งบ่งชี้ว่ามีความผิด แต่ถือเป็นสิ่งผิดปกติ ที่บริษัทสามารถนำหลักฐานมาชี้แจงได้ และระบุว่ามีอีกหลายบริษัทที่มีข้อมูลไม่สัมพันธ์กัน ซึ่งดีเอสไออยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง

คุณอาจสนใจ

Related News