ข้อเสนอภาคประชาชนต่อการแก้ปัญหากากอุตสาหกรรม จ.ราชบุรี

ปัญหาขยะในโรงงานแวกซ์กาเบ็จ อำเภอจอมบึง จ.ราชบุรี กำลังเข้าสู่กระบวนการขนย้ายไปกำจัด โดยบริษัทที่ชนะการประกวดราคาจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม วงเงินกว่า 59 ล้านบาท ซึ่งมูลนิธิบูรณนิเวศ คาดหวังว่า บริษัทผู้รับจ้าง จะมีช่องทางให้ชาวตำบลน้ำพุ ที่เป็นผู้ได้รับผลกระทบจากขยะเคมีมาหลาย 10ปี ได้มีส่วนร่วมตรวจสอบการทำงานของบริษัทผู้รับจ้าง และเสนอให้ภาครัฐเดินหน้าฟื้นฟูแหล่งน้ำธรรมชาติ ที่ปนเปื้อนขยะเคมีให้กลับคืนมาเป็นปกติโดยเร็ว


ชาวตำบลน้ำพุ อำเภอเมือง ราชบุรี ตั้งคำถามถึงมาตรการที่ภาครัฐ โดยเฉพาะตำรวจและฝ่ายปกครอง จะสนับสนุนการขนย้ายขยะเคมีออกจากโรงงานแวกซ์กาเบจฯ อย่างไรบ้าง หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมา มีกลุ่มชายฉกรรจ์ นำท่อซีเมนต์ปิดทางเข้าออกโรงงานแวกซ์กาเบ็จ ที่เจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม และบริษัทผู้รับจ้างเตรียมเข้าไปสำรวจพื้นที่เพื่อทำงาน


อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเจ้าหน้าที่เจรจาจนเหตุการณ์ผ่านไปด้วยดี และตลอด 3 วันที่ผ่านมา บริษัทผู้รับจ้าง ไม่ถูกขัดขวางใดๆ แต่ชาวตำบลน้ำพุ ซึ่งเป็นพื้นที่ได้รับผลกระทบจากขยะอุตสาหกรรม สงสัยว่าพฤติกรรมดังกล่าวเข้าข่ายขัดขวางการทำงานหรือไม่ และจะมีมาตรการใดที่จะยืนยันว่าการขนย้ายขยะออกนอกพื้นที่ ที่ชาวบ้านรอคอยมานานนั้น จะไม่สะดุดลง


นายธนู งามยิ่งงวด เป็นหนึ่งในผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำเสียสารเคมีปนเปื้อนน้ำพุ และน้ำบาดาลใช้ไม่ได้ เขาจึงเรียกร้องปัญหานี้และร่วมฟ้องร้องเอาผิดโรงงาน / แต่สัปดาห์นี้เขาสงสัยว่าถูกคุกคาม และเมื่อรวมกับเหตุการณ์กลุ่มคนปิดทางสาธารณะที่ผ่านใจกลางโรงงานแล้วไม่ได้ถูกดำเนินคดีทำให้เขาไม่มั่นใจต่อการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ



อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ยอมรับว่าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ถูกกลุ่มคนขัดขวางมาแล้ว 4ครั้ง ด้วยการนำท่อซีเมนต์มาปิดทางเข้าออก แม้เจ้าหน้าที่จะเข้าไปยกออกแล้ว แต่วันรุ่งขึ้นก็ปิดอีก จึงได้ลงบันทึกประจำวันและเน้นเจรจา แต่หากหลังจากนี้ถูกขัดขวางอีกจะแจ้งความดำเนินคดีเด็ดขาด เพื่อให้การขนย้ายขยะเคมีเดินหน้าไปให้ได้ ส่วนกรณีความปลอดภัของชาวบ้าน ได้ย้ำให้ตำรวจภูธรจังหวัดทำหน้าที่เต็มที่


ขณะที่ผู้อำนวยการมูลนิธิบูรณนิเวศ แสดงความยินดีหากนำกากขยะอุตสาหกรรมออกไปจากชุมชนได้ แต่ก็หวังว่าบริษัทผู้รับจ้างขนย้ายกากขยะ จะมีช่องทางให้ชาวบ้านมีส่วนร่วมตรวจสอบการทำงาน ไม่ให้เกิดผลกระทบซ้ำอีก


นอกจากนี้ ยังย้ำว่าภาครัฐต้องไม่ลืมที่จะฟื้นฟูระบบนิเวศน์ที่เสียหายจากน้ำเสียสารเคมีมานาน