สังคม

แกะรอยต้นตอเหตุโกดังพลุระเบิด จ่อตั้ง คกก.ตรวจสอบ หาคำตอบปมสินค้าอันตรายถูกเก็บกลางชุมชน

โดย panisa_p

31 ก.ค. 2566

126 views

ข่าว 3 มิติ พยายามหาคำตอบในหลายประเด็น ใน เหตุการณ์โกดังพลุไฟระเบิดที่บ้านมูโนะ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส ระเบิด จนมีผู้เสียชีวิต 12 ราย บาดเจ็บกว่า 115 ราย และบ้านพังเสียหายกว่า 300 หลังมีการปล่อยให้โกดังเก็บพลุไฟตั้งอยู่ในชุมชนได้อย่างไร ล่าสุดผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่า มีการขออนุญาตเปิดโกดัง แต่ไม่มีการขออนุญาตขายพลุไฟ ซึ่งจะมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบหน่วยงานราชการที่บกพร่องต่อการปฏิบัติหน้าที่



ด้านผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เปิดเผยว่าได้ออกหมายเรียกเจ้าของร้าน 2 ราย มาให้ปากคำเพื่อเตรียมดำเนินคดีแล้ว ขณะที่ทีมข่าว 3 มิติแกะรอยเส้นทางการลักลอบนำพลุไฟเกือบ 6 ตันมาไว้ในชุมชนและเส้นทางการลักลอบขายประเทศเพื่อนบ้าน หลังชาวบ้านพากันตั้งคำถามว่าเจ้าหน้าที่ปล่อยให้เกิดขึ้นได้อย่างไรจนกลายเป็นโศกนาฎกรรมครั้งใหญ่ในบ้านมูโนะ



หลุมลึกกว่า 2 เมตร สองหลุมใหญ่ เป็นหลักฐานความรุนแรงจากระเบิดของโกดังพลุไฟที่ทำให้โกดังและบ้านใกล้เคียงหายไปทั้งหมด แรงระเบิดของพลุไฟ แม้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสอน แต่ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าจะมาจากวัตถุไวไฟน้ำหนักมากกว่า 1 ตันขึ้นไปจากคำให้การของชาวบ้านหลายรายว่ามีรถบรรทุกสองคันมาส่งของในโกดังจึงคาดการณ์ว่าอาจจะมีพลุไฟน้ำหนักไม่ตำกว่า 5 ตัน



โดยผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 9 เปิดเผยว่า ได้มีการออกหมายเรียง นางสาวปิยะนุช พึ่งวิรวัฒน์ และนายสมปอง ณะกุล เจ้าของร้านวีรวัฒน์พาณิชย์ เจ้าของโกดังพลุไฟ มาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนในวันที่ 1 สิงหาคม หากไม่มาจะออกหมายจับ ซึ่งจนถึงขณะนี้ตำรวจระบุว่ายังไม่สามารถติดต่อเจ้าของโกดังได้



ส่วนการขออนุญาตเปิดโกดัง ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่า มีการขอเปิดโกดังจากอบต.มูโนะแล้ว แต่เป็นการขายสินค้าการเกษตร ส่วนการขายพลุไฟไม่พบว่ามีการขออนุญาต เพราะต้องขอจากอำเภอ เสนอไปยังจังหวัดและกระทรวงมหาดไทย จึงต้องตั้งคณะกรรมการมาสอบสวนข้อเท็จจริงในการปล่อยปละละเลยจนเกิดเหตุแบบนี้ขึ้น



บ้านที่หายไปทั้งหลัง เหลือเพียงตอไม้ ซากรถจักรยานยนต์และซากรถยนต์ เป็นสิ่งที่หลงเหลือให้พอรู้ว่าเคยเป็นที่ตั้งของบ้าน และยังเป็นภาพที่ยากจะทำใจของนายอักมัล ดอเลาะ ที่ครอบครัวเสียชีวิตไป 5 คน รวมภรรยาและลูก หมดสิ้นทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ที่ผ่านมาไม่รู้ว่าเพื่อนบ้านที่เปิดโกดังใหญ่มีการเก็บพลุไฟไว้มากขนาดนี้ จึงอยากให้มาแสดงความรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับคนทั้งหมู่บ้าน



สภาพทั้งหมู่บ้านยังเต็มไปด้วยความเสียหายรถยนต์ ของใช้จมอยู่ใต้กองหลังคาที่เสียหายจากแรงระเบิด ท่ามกลางการหมดกำลังใจจากของคนในหมู่บ้านมูโนะ ภายในร้านขายสินค้าการเกษตรของนายสมปิง ณะกุล และ น.ส.ปิยะนุช พึ่งวิรวัฒน์ ก็ได้รับความเสียหายจากแรงระเบิดจากโกดังพลุไฟ รวมถึงรถยนต์หน้าบ้าน ซึ่งโชคดีที่โกดังด้านหลังที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจยึดพบพลุไฟเกือบ 1 ตัน ไม่เกิดประกายไฟลุกไหม้มาด้วย



โดยภายในโกดังที่มีการยึดพลุไฟไปแล้ว ข่าว 3 มิติพบร่องรอยภายในโกดัง หลงเหลือพลุไฟ และเครื่องหมายห้ามสูบบุหรี่ และป้ายภาษามาเลเซีย รวมถึงรถเข็น ที่มีรายงานว่า โกดังแห่งนี้มีไว้ส่งของไปขายในฝั่งมาเลเซีย เนื่องจากด้านหลังติดกับแม่น้ำโกลก ซึ่งหากไม่มีการขออนุญาตขายพลุไฟอย่างถูกต้อง แล้วการขายพลุไฟที่มีอยู่ก่อนหน้านี้ถูกต้องหรือไม่ เพราะชาวบ้านต่างรู้ดีว่า ร้านนี้ขายพลุไฟมาหลายปีแล้ว และเป็นเจ้าใหญ่ในสุไหงโกลก เพราะในปี 2559 ทั้ง 2 คนถูกดำเนินคดีพร้อมของกลางพลุไฟเกือบ 6 ตัน



โดยวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการตรวจยึดดอกไม้เพลิง ชนิดลูกบอลจากโดังของนายสมปอง ซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์ ชั้น2 ที่อยู่ตรงข้ามร้านขายสินค้าเกษตรได้อีก 900 กิโลกรัม รวมของกลางที่พบเพิ่มรวม 3 ตัน ยังไม่นับที่เก็บไว้ในโกดังที่ถูกระเบิดด้วย ซึ่งนี่เป็นคลิปที่ชาวบ้านรายหนึ่งนำให้ทีมข่าว ระบุว่า เป็นคลิปจากลูกค้ารายหนึ่ง มีการบรรยายว่าภายในเป็นสินค้าที่เป็นพลุไฟที่พร้อมส่งของภายในสิ้นเดือนนี้



คุณยายคนนี้เกือบเอาชีวิตไม่รอด เพราะแรงระเบิดทำให้หลังคาหล่นทับแขน จนต้องรอให้ตำรวจมาช่วย เธอคาดหวังจะให้มัการสร้างบ้านใหม่โดยเร็ว และขอให้เจ้าของโกดังมารับผิดชอบด้วย ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากเหตุระเบิดพลุไฟที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ขายอย่างถูกกฎหมาย ได้ส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงจนเกิดโศกนาฏกรรมกับชาวบ้านมูโนะแบบนี้ ต้องมีผู้รับผิดชอบ

คุณอาจสนใจ

Related News