จับแก๊งค้ายาเสพติด-ปืน โจ่งครึ่มผ่านออนไลน์ ก่อนส่งของทางพัสดุ

การใช้โซเชียล เป็นช่องทางในการซื้อขายสิ่งผิดกฎหมาย โดยเฉพาะยาเสพติด และซื้อขายอาวุธปืน มีการซื้อขายผ่านออนไลน์ กันเป็นจำนวนมาก ล่าสุดตำรวจหลายหน่วย ได้จับกุมกลุ่มผู้ขายยาเสพติด และอาวุธปืน ผ่านออนไลน์ โดยใช้วิธีการขนส่งผ่านทางพัสดุเอกชน



การแต่งกายด้วยชุดพนักงานส่งพัสดุสินค้า เป็นอีกวิธีการหนึ่งที่้ผู้ต้องหาใช้ตบตาเจ้าหน้าที่ แต่เมื่อตำรวจสืบสวนนครบาล 6 ได้สะกดรอยติดตาม และเรียกตรวจค้นพบว่าได้รับจ้างส่งไอซ์ ยาบ้า และเฮโรอีน รวมทั้งเคตามีน รับส่งยาเสพติดทุกประเภท จึงเข้าจับกุมได้ที่ ริมถนนบางแค กรุงเทพ

เมื่อสอบสวนพบว่า เครือข่ายผู้ต้องหา ขายผ่านทางโซเชียล ทวิตเตอร์ และส่งให้ลูกค้าทางพัสดุ ขนส่งเอกชน และ พนักงานส่งสินค้า

จึงได้เข้าตรวจค้นบ้านเช่า ย่านเพชรเกษม จับผู้ต้องหาได้อีก 2คนพร้อมไอซ์ 31 กิโลกรัม และ ยาบ้าน กว่า 2 แสน เม็ด เคตามีนและเฮโรอีน จำนวนหนึ่ง ขณะที่ตรวจค้นรถยนต์ ยังพบว่าซุกซ่อนไอซ์ ไว้อีก 26 กิโลกรัม ได้ย่านภาษีเจริญ



ก่อนหน้านี้ ตำรวจสืบทราบว่า มีการขายยาเสพติดผ่านทวิตเตอร์ กระทั้งจับกุมนายเอกรัตน์ พร้อมของกลาง ได้ที่ร้านขนส่งพัสดุ แห่งหนึ่ง ย่านพุทธมณฑลสาย 3 พร้อมกับให้การว่าได้รับยา มาจาก ผู้ค้าย่านเพชรเกษม 94 จนทราบเบาะแสว่า ผู้จำหน่วย ยาเสพติด ให้คือนายกิตติพงษ์ และนายสมศักดิ์ จึงลงพื้นที่ พบผู้ต้องหา อยู่ย่านบางแค จึงได้เข้าจับกุม จากนันผู้ต้องหาได้พาไปตรวจค้นบ้านเช่า ย่านเพชรเกษม 94



จากการสวนสวนนายกิตติพงศ์ ให้การว่ารับไอซ์ มาจากนายชวการ จากปากซอยเทอดไท ตำรวจจึงได้กระจายกำลังเฝ้าสังเกตการณ์ จนพบนายชวการและนายวิจัย กำลังขับรถยนต์ เข้าไปจอดภายในซอยเทอดไท จากนั้นทั้งสองได้เดินไปยังรถอีกคัน ที่จอดอยู่ภายในลานจอดรถ และได้หยิบถุงพลาสติกสีดำ ส่งให้กับลูกค้า เจ้าหน้าที่จึงได้จับกุม พร้อมของกลางเป็นยาบ้า 228000 เม็ด ไอซ์ 31 กิโลกรัม



ส่วนรถยต์อีกคัน นายวินัย ได้ขับมาจอดทิ้งไว้ ในลานจอดรถเช่นเดียวกัน แต่นายวินัยอ้างว่าไม่มีกุญแจ เจ้าหน้าที่จึงได้ให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าตวาจค้น พบเคตามีน 26 กิโลกรัม



ผู้ต้องหาให้การว่าได้รับคำสั่งจากผู้ใช้ไลน์ ชื่อหนุมาน 168 เป็นผู้สั่งการ ให้ไปรับยา และนำมาพักไว้ที่่ลานจอดรถ ย่านภาษีเจริญ และนำออกจากส่งให้ลูกค้าโดยติดต่อกันทางโซเชียล



ขณะที่การขายปืนและเครืองกระสุนปืนผ่านทางออนไลน์ ยังพบว่ามีหลายเครือข่าย



ล่าสุด ตำรวจสอบวนกลาง โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือปอท.และปราบปราบการกระทำความผิดเก่ยวกับคดีทางเศรษฐกิจหรือปอศ ได้นำกำลัง เข้าจับ นายศัลย์ อายุ 40ปี ได้ที่บ้านพัก ย่านลาดพร้าว 87 เป็นผู้จัดจำหน่ายอาวุธผ่านทางออนไลน์ นายนิพนธ์ จับได้ที่บ้านพักย่านปุทูมธานี

และนายวีระศักดิ์ อายุ 31 ปี จับได้ที่บ้านในอ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช เป็นผู้สั่งซื้ออาวุธ และกระสุนปืนผ่านออนไลน์



พร้อมของกลางเป็นอาวุธปืนและกระสุนปืน หลายชนิด รวมถึงกระสุนสำหรับอาวุธสงคราม หลังจากตำรวจได้ติดตาม กลุ่มไลน์ ที่ชื่อ ว่าบริษัทโครตรเสี่ยง V7 มีสมาชิกกว่า 300 คน ได้ประกาศขายอาวุธปืน ไม่มีทะเบียน และเครื่องกระสุนปืน ซื้อขายอย่างเปิดเผย และได้ของจริง ขณะที่ ผู้ต้องหาปฏิเสธว่า เครื่องกระสุนปืนจำนวนมากกว่า 3 หมื่นนัดมีไว้ใช้เอง ไม่ได้จำหน่าย



ที่ผ่านมา พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พลตำรวจโทจิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ให้ความสำคัญกับการกวาดล้างอาชญากรรม ที่เกิดจากการใช้อาวุธปืน เนื่องจากเป็นบ่อเกิดของอาชญากรรมรุนแรง โดยเฉพาะการขายผ่านทางออนไลน์ ที่คนทกวัยเข้าถึงได้ง่ายและหากอาวุธเหล่านี้หากตกไปอยู่ในมือของบุคคลที่ไม่มีวุฒิภาวะ คนอารมณ์รุนแรง ไม่สามารถยับยั้งชั่งใจ ก็จะเกิดเหตุความสูญเสียเกิดขึ้นทันที