สังคม

กระทรวงการคลังเตรียมแผนเบิกจ่ายแสนล้าน รองรับงบปี 2567 ล่าช้ากว่าแผนที่วางไว้

โดย panisa_p

14 ก.ค. 2566

146 views

กระทรวงการคลัง เตรียมแผนเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐ ผ่านงบลงทุนรัฐวิสาหกิจที่มีรวมกันราว 5 แสนล้านบาท รวมถึงอาจเร่งรัดการเบิกจ่ายแบบ Front load รองรับการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2567 ที่อาจจะล่าช้ากว่าแผนที่วางไว้ โดยปลัดกระทรวงการคลัง ประเมินว่าหากล่าช้านานถึง 6 เดือน จะมีผลต่อ GDP 0.05 เปอร์เซ็นต์



นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลังยอมรับว่าการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2567 จะล่าช้ากว่าแผนที่วางไว้ โดยประเมินว่าหากล่าช้านานถึง 6 เดือน จะมีผลต่อ GDP 0.05% ซึ่งปกติการเบิกจ่ายงบลงทุนจะมีสัดส่วนมากสุดในช่วงปลายปีงบประมาณ แต่ก็นับว่ากระทบไม่มาก ซึ่งกระทรวงจะไปเร่งเบิกจ่าย งบลงทุนของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ซึ่งมี รวมกันราว 5 แสนล้านบาท โดยคาดว่าจะเร่งรัดการเบิกจ่ายแบบ front load หรือการเร่งรัดเบิกจ่ายส่วนที่ดำเนินได้ เพื่อมาดำเนินการก่อนในไตรมาส 1 และไตรมาส 2 ของปี งบประมาณ 2567 ซึ่งจะทำได้ราว 5-6 หมื่นล้านบาท รวมถึงโครงการต่างๆของธนาคารรัฐ ที่ได้รับการอนุมัติไปแล้ว แต่ยังใช้เงินไม่หมด ประมาณ 7 หมื่นล้านบาท เพื่อดำเนินการภายในช่วงแรกของปีงบประมาณ 2567



นอกจากนี้ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค.ก็เตรียมแผนรองรับไว้ โดยมั่นใจว่าจะชดเชยแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นจากการเบิกจ่ายงบประมาณล่าช้า และขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้อย่างต่อเนื่อง ขณะที่อีก 4 หน่วยงานวางแผนงบประมาณ ได้แก่ กระทรวงการคลัง สภาพัฒน์ สำนักงบประมาณ และธนาคารแห่งประเทศไทย ต้องวางแผนเบิกจ่ายงบประมาณปี 67 ควบคู่ 68 ตั้งแต่ปลายปีปฏิทินนี้ เนื่องจากการจัดตั้งรัฐบาลล่าช้า



ขณะที่นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. ระบุว่า หลังจากได้รัฐบาลใหม่ จำเป็นต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ซึ่ง สศค. ได้เตรียมความพร้อม ของแพลตฟอร์มการใช้จ่ายเงินผ่านระบบออนไลน์ต่างๆไว้รองรับ ขึ้นอยู่กับแนวทางนโยบายของรัฐบาลใหม่จะเป็นเช่นไร สศค.ประเมินว่า ในภาวะนี้ ต้องกระตุ้นการบริโภคเป็นหลัก เพราะสามารถสร้างเม็ดเงินให้หมุนเวียนในระบบได้เร็วที่สุด และต้องออกแบบให้ตรงกับกลุ่ม เพราะมีงบฯจำกัด โดยยังคงประมาณการณ์ GDP ปีนี้ โต 3.6%



ขณะที่นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยวันนี้ว่า อยากให้จัดตั้งรัฐบาลใหม่เร็วที่สุด เพื่อออกมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยขอให้ทุกฝ่ายเห็นแก่ประโยชน์ของชาติ และสนับสนุนให้เกิดรัฐบาลใหม่โดยเร็ว ไม่ให้กระทบความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจและนักลงทุนต่างประเทศ

คุณอาจสนใจ

Related News