วสท.เข้าตรวจทางเลื่อนสนามบินดอนเมือง หลังดูดขาผู้โดยสาร

ความคืบหน้าการตรวจสอบและแก้ปัญหาทางเลื่อนในสนามบินดอนเมืองดูดขาผู้โดยสารหญิงเข้าไปติดอยู่จนขาขาด ซึ่งเมื่อวานนี้ทางผู้บริการสนามบินดอนเมืองได้ออกมาแถลงชี้แจง ว่า ปกติจะมีการตรวจสอบและซ่อมบำรุงทุกรอบเดือน รอบ 3 เดือน หากพบจุดขัดข้องหรือชำรุดก็ดำเนินการแก้ไขทันที ซึ่งวันนี้ได้ให้ทางวิศกรรมสถานแห่งประเทศ และวิศวกรที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบแล้ว



ทางสนามบินดอนเมือง สั่งหยุดใช้งานทางเลื่อนทั้งหมด พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง กรณีอุบัติเหตุทางเลื่อนในสนามบินดอนเมือง ดูดขาซ้ายผู้โดยสารหญิง อายุ 57 ปี ขณะเดินทางไปจังหวัดนครศรีธรรมราช จนขาข้างซ้ายขาด ตั้งแต่เหนือหัวเข่าลงไปออก เพราะไม่สามารถต่อขาได้



ซึ่งนายการันต์ ธนกุลจีรพัฒน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง ได้เปิดแถลง ยืนยันว่า ปกติเปิดใช้งานทางเลื่อนชั่วคราวทั้งหมด 20 ตัว แบ่งเป็นรุ่นเก่า 16 ตัวและรุ่นใหม่อีก 4 ตัว



โดยทางเลื่อนที่มีปัญหา ใช้งานมาตั้งแต่ปี 2539 หรือประมาณ 27 ปีแล้ว แต่ยืนยันว่า ได้บำรุงรักษาอย่างต่อเนื่อง นอกเหนือจากตรวจตามวงรอบรายเดือน ราย 3 เดือน และรายปี โดยบริษัทต้นทางที่ติดตั้ง คือ "ฮิตาชิเจแปน" ซึ่งมีบริษัท "สยามฮิตาชิ" เป็นผู้ตรวจเช็กซ่อมบำรุง



หลังการขายของประเทศญี่ปุ่นโดยตรง และหลังเกิดเหตุ ทางฮิตาชิเจแปน ได้เข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว พบว่า สภาพอุปกรณ์ รวมถึงหวี ไม่มีการชำรุดเลยก่อนเกิดเหตุ เพราะฉะนั้นจะต้องสืบสวนให้ละเอียดก่อน



พร้อมอธิบายว่า ตามปกติแล้ว ถ้าร่องหวีหักติดกันสองซี่ จะเปลี่ยนทันที แต่จากภาพที่ปรากฏในสื่อ ที่เห็นว่ามีร่องหวีหักหลายซี่ จึงยังระบุไม่ได้ว่า เกิดจากสาเหตุใด



ขณะที่ภาพวงจรปิดที่เกิดเหตุ เป็นภาพระยะไกล จึงบอกไม่ได้ ว่า มีการสะดุดของผู้โดยสาร หรือการสะดุดของตัวสายพานทางเลื่อน แต่พบล้อของกระเป๋าของผู้โดยสารติดอยู่ใต้ทางเลื่อนถึง 2 ล้อ และอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์



ผอ.ท่าอากาศยานดอนเมือง กล่าวว่า ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยจะใช้ทีมงานชุดนอก ร่วมตรวจสอบด้วย คือ วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์หรือ วสท. เพื่อให้เกิดความชัดเจนและปลอดภัยว่า อุปกรณ์ตัวนี้เกิดความผิดพลาดจากอะไร