กสม.ระดมความเห็น ร่างเเผนปฏิบัติการขับเคลื่อนบังคับใช้ พ.ร.บ.อุ้มหายฯ

การบังคับใช้พ.ร.บ.อุ้มหาย ไม่ได้กลายเป็นปัญหาเฉพาะแต่ตำรวจที่ถูกดำเนินคดี และตำรวจที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ให้ครบตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น ที่ผ่านมา มีหลายคดีที่ประชาชนต้องกลายเป็นเหยื่อความรุนเเรง โดยการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งการปกปิดชะตากรรม พาไปซ้อมทรมาน-รีดเอาข้อมูลเเละทรัพย์สินเเลกกับอิสรภาพ ถือเป็นการละเมิดสิทธิเเละเสรีภาพอย่างร้ายเเรง ซึ่งบางกรณีรุนเเรงถึงขั้นเสียชีวิต



ด้วยเหตุนี้ "สำนักงานคณะกรรมสิทธิมนุษยชนเเห่งชาติ" จึงได้ร่างเเผนปฏิบัติการ ว่าด้วยการป้องกันการทรมาน ล่าสุด ได้ทำหนังสือเชิญผู้เเทนจากทุกภาคส่วน เข้าร่วมเสนอเเนะเเนวทาง หลัง พ.ร.บ.ป้องกันการทรมาน-อุ้มหายฯ เริ่มมีผลบังคับใช้ ติดตามในรายงาน คุณสถาพร ด่านขุนทด



อีกหนึ่งเสียงสะท้อนเเละข้อเสนอจากตัวเเทนภาคประชาสังคม ที่อยากให้"สำนักงานคณะกรรมสิทธิมนุษยชนเเห่งชาติ" หรือ กสม. เเละหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ความสำคัญกับผลการตรวจสภาพร่างกาย เเละคำวินิจฉัยจากเเพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งหลักฐานสำคัญ ที่จะนำไปสู่การสืบสวนขยายผล เอาผิดกับเจ้าหน้าที่รัฐที่มีพฤติกรรมรุนเเรง ชอบซ้อมทรมาน ปกปิดชะตากรรม ละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมุษย์



พ.ร.บ.ป้องกันปราบปรามการทรมานเเละการกระทำให้บุคคลสูญหาย เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งเเต่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลายฝ่ายเริ่มตื่นตัว ทำความเข้าใจกับกฏหมายฉบับนี้ เเต่ปัญหาคือปัจจุบัน ยังมีผู้บังคับใช้กฏหมายอีกจำนวนไม่น้อย ที่ยังขาดความรู้ความเข้าใจ เรื่องระเบียบเเละเเนวทางปฏิบัติ



หลังจากพ.ร.บ.ฉบับนี้ มีผลบังคับใช้ กสม.ซึ่งมีบทบาทเเละหน้าที่ในเรื่องนี้ จึงได้จัดทำ(ร่าง)เเผนปฏิบัติการ ว่าด้วยการป้องกันการซ้อมทรมาน ภายใต้ 3 กลยุทธ์หลัก คือ 1. การขับเคลื่อนเพื่อการเปลี่ยนเเปลง 2.การเสริมสร้างความเข้มเเข็งในการบังคับใช้กฏหมาย เเละ3. การเพิ่มประสิทธิผลของการป้องกันการทรมาน



กสม. ให้เหตุผลที่ต้องจัดทำเเผนนี้ หลักก็เพื่อให้เป็นกรอบดำเนินการ ขับเคลื่อนไปพร้อมกับ พ.ร.บ.ป้องกันการทรมาน-อุ้มหาย ซึ่งหลายฝ่ายร่วมกันผลักดันให้มีกฏหมาย สอดรับกับอนุสัญญาที่ประเทศไทย เคยให้คำมั่นไว้กับนานาประเทศ เเละการซ้อมทรมาน-อุ้มหาย ก็เป็นเรื่องที่กรรมการสิทธิมนุษยชนเเห่งชาติ ได้รับการร้องเรียนต่อเนื่องตลอด 22 ปีที่ผ่านมา



การประชุมในวันนี้ ทางกสม.จะรวบรวมข้อเสนอเเนะเเละความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาสังคม วิชาการ เเละสื่อมวลชน ทำเป็นข้อมูลเพื่อนำไปพิจารณา จัดทำเเผนปฏิบัติการว่าด้วยการป้องกันการทรมาน พ.ศ.2567 - 2569