จับยาเสพติดล็อตใหญ่ ขณะลำเลียงลงเรือ เตรียมส่งออกต่างประเทศ

เครือข่ายยาเสพติด ฉวยโอกาสช่วงเลือกตั้งที่ผ่านมา ลำเลียงยาเสพติดจากภาคเหนือไปภาคใต้จำนวนมาก เพราะสันนิษฐานว่าเจ้าหน้าที่ได้นำกำลังไปดูแลรักษาความปลอดภัยการเลือกตั้ง แต่ตำรวจปราบปรามยาเสพติดได้แบ่งกำลังติดตามกลุ่มผู้ลำเลียงยาเสพติด จากทางบกไปส่งลูกค้ากลางทะเล โดยลักลอบขนส่งทางเรือสินค้า ไปยังเรือเดินสมุทร



การสะกดรอยติดตามรถลำเลียงยาเสพติด จากภาคกลาง ที่จะลงสู่ภาคใต้ หลังจากจับไอซ์ได้ที่ภาคกลางเป็นจำนวนหลายพันกิโลกรัมที่ผ่านมา ซึ่งผู้ต้องหาต่างรับว่าจะนำไปส่งที่ภาคใต้ เมื่อไม่มีใครทราบจุดหมายปลางทาง ตำรวจจึงใช้วิธีการสะกดรอยตาม พบรถกระบะต้องสงสัย จึงติดตามดูพฤติกรรม จนพบว่ารถกระบะได้แล่นไปในพื้นที่ลับตาคน เมื่อสะกดรอยตามเข้าไปจนแน่ชัดว่า พบรถกระบะได้ขับเข้าไปยังจุดลับตา ค่อนข้างลึกในป่าชายเลน มีสะพานคล้ายเป็นจุดจอดเรือ



เมื่อเข้าไปถึงพบเป็นท่าเรือเฉพาะกิจ ใน อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช มีเรือสินค้าจอดเทียบอยู่ พร้อมเรือสปี๊ดโบ้ทอีก 2 ลำ

โดยมีผู้คนพลุ่กพล่าน กำลังแบกวัตถุต้องสงสัยไปลงเรือ แต่เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ปรากฎตัวขึ้น ทุกคนหยุดแบก และโยนสิ่งของทิ้ง กระโดดน้ำหนี ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ปส.3 จึงแสดงตัวเข้าจับกุม พบนายอนุชา เป็นเจ้าของเรือถูกจับได้คนแรก ที่เหลือ กระโดดน้ำหนี ตามจับมาได้ รวมทั้งหมด 9 ราย เมื่อตรวจสอบภายในเรือ พบไอซ์ บรรจุใส่ลัง ห่อด้วยถุงสีดำ จำนวนมาก ซุกซ่อนอยู่ใต้พื้นกระดานเรือ จากการตรวจยึด พบไอซ์บนเรือ และอยู่ระหว่างนำลงเรือถึง 1,600 กิโลกรัม



พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่าจากการสืบสวนของตำรวจปราบปรามยาเสพติดมากว่า 1 เดือนทราบว่าขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ จะมีการลำเลียง ยาเสพติดล็อตใหญ่ลงเรือ จึงเฝ้าติดตาม จนพบผู้ต้องสงสัย นำสี่งของต้องสงสัยจำนวนมากไปที่ท่าเทียบเรือ จึงวางแผนจับกุม



จากการจับกุมครั้งนี้ สามารถยึดทรัพย์สินไปตรวจสอบได้ทั้ง เรือ 1 ลำ เรือสปีดโบต 2 ลำ รถยนต์ 5 คัน บ้าน 1 หลัง ที่ดิน 8 แปลง ซึ่งผู้ต้องหารับว่าเคยขนส่งไอซ์ครั้งละกว่า 1 ตัน ทางเรือไปส่งต่อให้เรือเดินสมุทรกลางทะเลมาแล้ว 5 ครั้ง



ขณะที่ตำรวจ บก.สกัดกั้นยาเสพติด สกัดจับขบวนการยาเสพติด ได้ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบลำเลียงยาบ้าในรถกระบะถึง 4 ล้านเม็ด รับว่ารับยามาจากภาคเหนือ ขณะที่ผู้ต้องหาอีกกลุ่ม จับกุมได้ที่จ.พระนครศรีอยุธยาเช่นเดียวกัน ซึ่งทั้งสองคดีเป็นการลำเลียงมาจากทางภาคเหนือ เพื่อนำมากระจายในกรุงเทพและปริมณฑล ยึดของกลางได้ 4 ล้าน 6 แสนเม็ด