สังคม

'อัจฉริยะ' มอบหลักฐานเอาผิด รองเลขาฯปปง. ปมลักรถขาย-รับเงินเว็บพนัน

โดย panwilai_c

7 เม.ย. 2566

45 views

หลังจากนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ออกมาเปิดประเด็น โดยอ้างว่าได้รับมอบอำนาจจาก พันตำรวจเอก ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ อดีตผู้กำกับโจ้ ซึ่งขณะนี้ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ ให้แจ้งความคดีฐานลักทรัพย์กับ พลตำรวจตรีเอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการ ปปง. โดยกล่าวหาว่าร่วมกันปลอมแปลง เอกสาร-นำรถยนต์ของอดีตผู้กำกับโจ้ ไปขาย 13 คัน ต่อมาพลตำรวจตรีเอกรักษ์ ออกมาชี้แจง-ปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง



ล่าสุด นายอัจฉริยะ เคลื่อนไหวอีกครั้ง โดยนำเอกสารหลักฐานเพิ่มเติม ไปยื่นที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เอาผิดกับรองเลขาธิการ ปปง.ทั้งกรณี "ลักทรัพย์" และข้อกล่าวหา "รับสินบนจากเว็บพนันออนไลน์" หลังพบหลักฐานสลิปการโอนเงินจากบัญชีธนาคาร 



นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้ายื่นหลักฐานที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ดำเนินคดีกับ พลตำรวจตรีเอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการ ปปง. ทั้งกรณีรถยนต์ 13 คัน และข้อกล่าวหา "ฐานเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับสินบนจากเว็บพนันออนไลน์ คิงพิน 88



โดยนายอัจฉริยะ อ้างว่า ได้หลักฐานเป็นสลิปโอนเงินหน้าเคาน์เตอร์ธนาคารแห่งหนึ่ง ลงวันที่ 12 มกราคม 2564 โดยกล่าวหาว่า มีเจ้าของเว็บพนันออนไลน์ระบุชื่อนายภาคิน โอนเงินให้ พลตำรวจตรีเอกรักษ์ 560,000 บาท



เหตุที่โอนให้ นายอัจฉริยะ อ้างว่า เป็นเพราะก่อนหน้านี้ในช่วง ปี2564 แก๊งพนันออนไลน์กลุ่มนี้ เคยถูกตำรวจภูธรภาค 6 จับกุม จึงไปขอความช่วยเหลือกับ พลตำรวจตรีเอกรักษ์ ซึ่งขณะนั้นเป็นรองผู้บัญชาตำรวจภูธรภาค 6 ต่อมาพบว่า เครือข่ายนี้ย้ายที่ตั้ง ไปอยู่ที่โรงพิมพ์ของภรรยาพลตำรวจตรีเอกรักษ์ ย่านบางขุนเทียน จ่ายค่าเช่าเดือนละ 1,500,000 บาท 18 เดือน รวมเป็นเงิน 27 ล้านบาท ส่วนเงินที่โอนให้ 560,000 บาท นายอัจฉริยะ ย้ำว่านี่คือสินบน



กระทั่ง 8 มิถุนายน 2565 ตำรวจ สน.บางขุนเทียน นำหมายศาลค้นโรงพิมพ์ จับกุมนายภาคิน พร้อมพวกรวม 3 คน ทั้งหมดประกันตัวออกมา ผ่านมา 2 ปี คดียังไม่คืบหน้า



ส่วนข้อกล่าวหา กรณีเอารถยนต์ 13 คันของอดีตผู้กำกับโจ้ไปขาย นายอัจฉริยะ บอกว่า ครั้งนี้เขามีหลักฐานที่เชื่อได้ว่า มีขบวนการร่วมกันปลอมแปลงเอกสาร โยกย้ายเอารถออกไปขาย ยืนยันว่า รถทั้ง 13 คันนี้ เคยอยู่ในความครอบครองของอดีตผู้กำกับโจ้ และมีเอกสารข้อมูลประวัติการโอนขายต่อทั้งหมด รวมทั้งเอกสารมอบอำนาจ เอกสารแต่งตั้งทนาย รวมหลายแฟ้ม นอกจากนี้ยังมีไฟล์คลิปเสียงสนทนาระหว่างน้องสาวอดีตผู้กำกับโจ้ กับผู้กองเบิร์ด ลูกชายของพลตำรวจตรีเอกรักษ์



ก่อนหน้านี้ พลตำรวจตรีเอกรักษ์ ได้ชี้แจงและปฏิเสธข้อกล่าว โดยบอกว่า หลังจากอดีตผู้กำกับโจ้ถูกจับ มีการร้องขอให้ช่วยนำรถไปขาย จึงช่วยดำเนินการให้ แต่หลังจากนั้นทราบว่า ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดฐานร่ำรวยผิดปกติ และให้ยึดอายัดรถ ตนเองจึงต้องช่วยจ่ายเงินให้กับคนที่ซื้อรถไปแทนเพื่อนำรถกลับมา เคยติดต่อกับน้องสาวอดีตผู้กำกับโจ้ รับคืนไปแล้วบางส่วน



ขณะที่นายอัจฉริยะ ย้ำว่า เรื่องนี้มีขบวนการ อดีตผู้กำกับโจ้เคยแต่งตั้งทนายความให้ไปร้องทุกข์ที่ สน.คันนายาว มาแล้วตั้งแต่ปี 2565 แต่คดีไม่คืบหน้า ซึ่งในจำนวน 13 คันนี้ ป.ป.ช. มีคำสั่งให้อายัดแล้ว 7 คัน ยังมีอีก 6 คันยังไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน



ซึ่งนี่เป็นยังเพียงข้อกล่าวหา ที่นายอัจฉริยะ อ้างว่าได้รับมอบอำนาจมาโดยตรง ในขณะที่พลตำรวจตรีเอกรักษ์ ซึ่งเป็นผู้ที่ไปรับตัวอดีตผู้กำกับโจ้จากชลบุรี หลังติดต่อมอบตัว ก็ยืนยันในความบริสุทธิ์ และจากนี้เตรียมจะฟ้องกลับนายอัจฉริยะ ฐานทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง

คุณอาจสนใจ

Related News