สังคม

เชียงใหม่ไม่ทน ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติหมอกควัน ประสานประเทศเพื่อนบ้านเร่งแก้ปัญหา

โดย panwilai_c

1 เม.ย. 2566

107 views

ตลอดทั้งเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ได้เกิดปัญหาฝุ่น PM 2.5 ในระดับวิกฤต โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือมีประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก จนเกิดคำถามว่า ต้องหนักขนาดไหน รัฐ หรือ ทางจังหวัดที่ประสบปัญหา จะประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ เพื่อให้การแก้ปัญหาเป็นไปอย่างรวดเร็ว



ข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่า วิกฤต เพื่อส่งต่อไปยังผู้รับผิดชอบให้ประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ อาทิ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ระบุถึงผลกระทบวิกฤตฝุ่นควัน พบว่ามีผู้ป่วยโรคถุงลมโป่งพอง โรคหอบหืด โรคภูมิแพ้ โรคเหยื่อบุตาอักเสบ มีอาการกำเริบเข้ารับการตรวจรักษา 12,671 คน ทำให้หอผู้ป่วยเต็ม ซึ่งยังมีผลกระทบระยะยาวต่อสุขภาพ เช่น เพิ่มความเสี่ยงการเป็นโรคเส้นเลือดหัวใจ หัวใจวายหลอดเลือดในสมองตีบ



อีกข้อมูลหนึ่ง ที่สะท้อนปัญหาในภาพใหญ่ได้อีก คือ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือจิสด้า เปิดข้อมูล จุดความร้อนในไทยขยับขึ้น 3,400 จุด โดยจังหวัดเชียงใหม่ มีจุดความร้อนสูงสุด 508 จุด

ขณะที่ประเทศข้างเคียงอย่างเมียนมาพบจุดความร้อนกว่า 6,424 จุด,



อีกหนึ่งองค์กรที่ทำงานด้านสิ่งแวดล้อม อย่าง กรีนพีซ ประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์ ขอให้รัฐบาลรักษาการณ์ต้องประกาศให้พื้นที่ประสบฝุ่นพิษ PM2.5 เป็นเขตภัยพิบัติทันที เพื่อปกป้องสุขภาพของประชาชน โดยต้องประกาศเขตภัยพิบัติในพื้นที่ที่มีผลกระทบจากฝุ่นพิษในระดับที่เข้มข้นต่อเนื่องกันอย่างน้อย 5 วันขึ้นไป



ล่าสุดช่วงเย็นวันนี้ ได้มีเอกสารเผยแพร่ ลงวันที่เมื่อวานนี้ จังหวัดเชียงใหม่ ได้ประกาศเขตภัยพิบัติไฟป่า หมู่ 3 ต.แม่เหียะ อ.เมือง และ หมู่ 12 ต.สุเทพ อ.เมือง และอีกพื้นที่หนึ่ง ที่มีการประกาศ คือ หมู่ 7 ตำรวจบ้านปง อ.หางดง



นั่นคือเฉพาะในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ แต่ยังมีอีกหลายจังหวัดทางภาคเหนือ ที่สถานการณ์อยู่ในระดับวิกฤต ก็ยังคงรอการประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ เพื่อความคล่องตัวในการใช้งบประมาณแก้ปัญหา และเยียวยาประชาชน



แม้จะประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ แต่การแก้ปัญหาของต้นกำเนิดฝุ่นควัน ยังต้องประสานไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ที่มีการเผาป่า เผาพืชไร่ โดยโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า กระทรวงการต่างประเทศ ได้ประสานเรื่องนี้ไปยัง รัฐมนตรีต่างประเทศของประเทศเพื่อนบ้าน ให้ช่วยกันแก้ไขปัญหาหมอกควันที่เกิดขึ้นแล้ว พร้อมสั่งการให้เอกอัครราชทูตไทย ณ​ กรุงย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา มีหนังสือถึงกระทรวงการต่างประเทศของเมียนมา และเข้า หารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเมียนมา เพื่อแจ้งความกังวลของไทยต่อปัญหาการเผาป่าที่เกิดขึ้น ซึ่งฝ่ายเมียนมาแสดงความพร้อมที่จะเร่งหาทางแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่



นอกจากนี้ ไทยยังได้หารือปัญหาหมอกควันข้ามแดน กับ ดร.เกา กิม ฮวน เลขาธิการอาเซียน เพื่อผลักดันความร่วมมือ ภายใต้ข้อตกลงอาเซียนว่าด้วยมลพิษจากหมอกควันข้ามแดน และขอให้มีการจัดการประชุมประเทศที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวร่วมกันอย่างเป็นทางการด้วย

คุณอาจสนใจ

Related News