สังคม

เครือข่ายชุมชนหลายลุ่มน้ำ ออกแถลงการณ์ค้านโครงการผันน้ำยวม ชี้ทำลายวิถีชีวิต-ทรัพยากร

โดย panwilai_c

13 มี.ค. 2566

68 views

เครือข่ายชุมชนลุ่มน้ำยวม เมย เงา สาละวิน ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ยุติโครงการผันน้ำยวม และยกเลิกรายงานผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมหรืออีไอเอที่ไม่ได้มาจากการมีส่วนร่วมของประชาชน และประกาศจะไม่เลือกพรรคการเมืองที่สนับสนุนโครงการนี้ เพราะเชื่ว่าไม่คุ้มค่าทางเศรษฐกิจที่หวังจะช่วยประชาชนในลุ่มน้ำเจ้าพระยา แต่จะทำลายวิถีชีวิตและทรัพยากรธรรมชาติของประชาชนในลุ่มน้ำสาละวิน แม่น้ำยวม และแม่น้ำเงา และส่งผลกระทบกับประชาชนในสามจังหวัดด้วย ติด



เครือข่ายชุมชนลุ่มน้ำยวม เมย เงา สาละวิน ร่วมกันแสดงจุดยืนไม่เอาโครงการสร้างเขื่อนเก็บน้ำยวมเพื่อผันน้ำสู่เขื่อนภูมิพล ผ่านกิจกรรม วิถีชีวิตคนอยู่กับป่าและแม่น้ำ ที่เห็นว่า การศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ อีไอเอ ของโครงการนี้ ขาดการมีส่วนร่วม ไม่รับฟังความคิดเห็นของชุมชน ผลการศึกษาจึงไม่ตรงกับข้อเท็จจริง หากรัฐบาลทำตามผลการศึกษานี้ เพราะไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน จึงมีมติให้ยกเลิกอีไออี ฉบับนี้และขอให้ถอนทุกโครงการที่เกี่ยวข้อง



นายยอดชาย พรพงไพร นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแม่สวด ย้ำว่า โครงการสร้างเขื่อนเก็บน้ำยวมเพื่อผันน้ำสู่เขื่อนภูมิพล ของรัฐบาลชุดนี้ จะเปลี่ยนวิถีชีวิตประชาชนในพื้นที่อย่างมหาศาล เพราะจะเกิดผลกระทบต่อทรัพยากรคน ป่าไม้ สัตว์ป่าและน้ำ



ขณะที่ชาวบ้านแม่เงา ยืนยันว่าโครงการผันน้ำยวม จะทำลายหมู่บ้านแม่เงาที่มีอายุมากกว่า 200 ปี มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน แม้ในอดีตจะเคยทำเหมืองแร่ แต่เมื่อปิดเหมืองก็ช่วยกันรักษาป่าและน้ำ ทั้งแม่น้ำยวมและแม่น้ำเงา ที่กลายเป็นวิถีชีวิต ทั้งที่ไม่มีที่นา แต่อาศัยป่าและน้ำ สร้างรายได้จากการหาเห็ด หาหัวบุก ซึ่งเป็นต้นทุนทางเศรษฐกิจของชุมชน ที่เป็นทั้งบ้าน ที่อยู่อาศัย ชีวิต และลมหายใจของชุมชน หากต้องย้ายถิ่นฐาน ก็จะทำลายชีวิตของชุมชนไปด้วย



เช่นเดียวกับชาวบ้านแม่ฮูด อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ ที่ชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน อำเภอฮอด 61 หมุ่บ้าน ได้ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี และหลายหน่วยงานคัดค้านโครงการนี้ เพราะกระทบกับที่ดินทำกินของชาวบ้าน โดยประกาศว่าหากพรรคการเมืองพรรคไหนสนับสนุนโครงการผันน้ำยวม จะไม่เลือกพรรคนั้น



นายหาญณรงค์ เยาวเลิศ ประธานมูลนิธิบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการ ยืนยันว่า รายงานอีไอโอโครงการผันน้ำยวม ที่ถูกเรียกว่าอีไอเอร้านลาบ เพราะไม่รอบคอบและไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง ทั้งๆที่จะใช้งบประมาณกว่า 1.7 แสนล้านบาท ไม่มีการอนุมัติจากคณะกรรมการลุ่มน้ำทั้งๆที่ต้องผันน้ำจากลุ่มน้ำสาละวิน รวมถึงผลกระทบจากการสร้างอุโมงค์ที่ในรายงานไม่ได้ระบุไว้ด้วยว่าจะกระทบกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าด้วย



ขณะที่ ผศ.มาลี สิทธิเกรียงไกร คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เห็นว่า รัฐบาลใหม่จากการเลือกตั้งต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ต้องทบทวนรายงานอีไอเอ โดยคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ควรลงพื้นที่เอง เพราะหากจะสร้างต่อไปจะสร้งความหายนะทางทรัพยากรธรรมชาติอย่างรุนแรง



สำหรับโครงการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้เชื่อนภูมิพล หรือโครงการผันน้ำยวม จะเกี่ยวข้องกับประชาชนและพื้นที่ป่ารอยต่อใน 3 จังหวัด ทั้งจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ และตาก ที่มีการรวมตัวคัดค้านอย่างต่อเนื่อง เพราะเชื่อมั่นว่าไม่คุ้มทุนแม้จะเป็นโครงการร่วมทุนระหว่ารัฐและเอกชน มูลค่าการลงทุน 1.7 แสนล้านบาท ซึ่งต้องมีการสร้างเขื่อนกั้นแม่น้ำยวม ห่างจากจุดบรรจบแม่น้ำเมย 13.8 กิโลเมตร สถานีสูบน้ำบ้านสบเงา และอาคารดักตะกอนดิน อุโมงค์ส่งน้ำกว้าง 8 เมตร ยาว 61.52 เมตร มีทางออกที่ห้วยแม่งูด อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ให้น้ำไหลลงอ่างเก้บน้ำเขื่อนภูมิพล และโครงการสายส่งไฟฟ้าแรงสูง กระทบโดยตรงกับประชาชนในสามจังหวัด



จึงขอให้รัฐทบทวนและพรรคการเมืองที่กำลังจะมีการเลือกตั้งต้องมีจุดยืนที่จะยุติโครงการนี้ด้วย เพราะแม้จะหวังให้เกิดประโยชน์กับคนลุ่มน้ำเจ้าพระยาแต่ทำลายชีวิตคนลุ่มน้ำสาละวิน ลุ่มน้ำยวม และลุ่มน้ำเงาด้วย

คุณอาจสนใจ