เปิดใจ 'ตันศรี ซุลกิฟลี' ผู้อำนวยความสะดวกมาเลเซีย เชื่อมั่นแผนสันติภาพ ยุติความรุนแรง

ผู้อำนวยความสะดวกมาเลเซีย พอใจการลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อรับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย ทำให้เชื่อมั่นว่า กระบวนการสันติภาพเกิดขึ้นได้ และคาดหวังว่า หลังการจัดทำแผนสันติภาพ JCPP จะเห็นพัฒนาการในการยุติความรุนแรง การหารือสาธารณะและทางออกการเมือง หลังเดือนกรกฏาคมนี้ พร้อมเปิดรับทุกกลุ่มเข้าร่วมการกระบวนการสันติภาพ ที่เชื่อว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุด



ตันศรี ซุลกิฟลี ไซนัล อะบิดิน ผู้อำนวยความสะดวกมาเลเซีย ลงพื้นที่วัดช้างไห้ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี ชื่มชมการรักษาศาสนสถานสำคัญทางศาสนาพุทธ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งอัตลักษณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และได้พบปะรับฟังข้อเสนอแนะจากตัวแทนชาวพุทธ ซึ่งเป็นผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุความรุนแรงในช่วง 20 ที่ผ่านมา พบว่า มีชาวพุทธ เสียชีวิตไปแล้ว 7,004 คน หรือ 70 เปอร์เซ็นต์ บาดเจ็บ 2,756 คน รวม 9,760 คน และมีการย้ายถิ่นฐานไปจำนวนมากทำให้ปัจจุบันมีชาวพุทธ 1.59 แสนคน มุสลิม 2.2 ล้านคน จาก 2.4 ล้านคน เพราะความหวาดกลัวจากสถานการณ์

จึงอยากผู้อำนวยความสะดวกสื่อสารไปถึงขบวนการ BRN หากต้องการสร้างสันติภาพต้องยุติความรุนแรง หยุดทำร้ายประชาชนเพื่อเเงื่อนไขต่อรองรัฐบาล และหยุดบิดเบือนประวัติศาสตร์เพื่อสร้างความเกลียดชังระหว่างชาวพุทธและมุสลิม ซึ่งเคยอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข



ผู้อำนวยความสะดวกมาเลเซีย ยืนยันกับตัวแทนชาวพุทธ ว่าเขา และรัฐบาลมาเลเซีย โดยนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม มีความจริงใจที่จะร่วมสร้างสันติภาพในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงพร้อมรับฟังทุกภาคส่วน และเชื่อมั่นว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้มีเพราะต้องการแบ่งแยกศาสนา แต่ปัญหาของมลายูปาตานี ที่เชื่อว่าต้องสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจกัน



ซึ่งในการสัมภาษณ์พิเศษ​ข่าว 3 มิติ ตันศรี ซุลกิฟลี เปิดใจยอมรับว่าการลงพื้นที่พบทั้งผู้นำศาสนาอิสลาม ชาวพุทธ และประชาชน ที่วันนี้เขาได้ไปละหมาดที่มัสยิดกลางปัตตานี และได้ไปเดินตลาดพบปะประชาชนทั้งพุทธและมุสลิม เขาสัมผัสได้ถึงบรรยากาศแห่งสันติสุข ต่างจากภาพความรุนแรงที่ปรากฏในข่าว ซึ่งนี่เป็นความตั้งใจในการลงพื้นที่ของเขาหลังได้รับตำแหน่งผู้อำนวยความสะดวกในกระบวนการสันติภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้ และเป็นเหตุผลในการรับตำแหน่งนี้



ตันศรี ซุลกิฟลี ไซนัล อะบิดิน ยอมรับว่าความท้าทายในการทำหน้าที่นี้คือการเปิดพื้นที่สื่อสารให้เกิดขึ้น เป็นขั้นตอนแรก ที่เขาได้พบปะทุกกลุ่มให้เชื่อมั่นในกระบวนการพูดคุย ซึ่งจากประสปการณ์ส่วนตัว จึงมั่นใจว่าจะทำได้ เขาจึงบอกกับทุกฝ่ายว่าแม้จะเป็นอดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองกำลังแห่งชาติมาเลเซียแต่เขาเป็นศาสตราจารย์ที่เชี่ยวชาญด้านสงครามและความขัดแย้ง ซึ่งตามทฤษฎีจะยุติได้จากการสร้างสันติภาพ โดยยุทธศาสตร์อยู่ที่การสื่อสาร ที่จะบอกได้ว่าต้องการอะไร เพื่อจะได้ชนะทั้งสองฝ่าย และเปิดใจยอมรับว่าไม่มีทางจะชนะฝ่ายเดียวได้ทั้งหมด



ผู้อำนวยความสะดวกมาเลเซีย เปิดเผยว่า แผนสันติภาพ JCPP ที่ไทยและบีอาร์เอ็น ตกลงร่วมกัน กำหนดแผนปฏิบัติการ 2 ปี จะเป็นเป้าหมายสำคัญไปสู่ความสำเร็จ ซึ่งจะเห็นการยุติความรุนแรง และการปรึกษาหารือสาธารณะ เพื่อนำไปสู่ทางออกทางการเมือง ส่วนจะเป็นไปได้หรือไม่ว่าจะเกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคมนี้ ต้องขึ้นอยู่กับความเต็มใจของทั้งสองฝ่ายที่จะบรรลุฉันทามติ ในฐานะผู้อำนวยความสะดวกก็คาดหวังว่าจะสรุปได้เร็วขึ้นด้วยซ้ำ



ข่าว 3 มิติ ได้ตั้งคำถามกรณีความหวาดกลัวต่อคำว่า เอกราช หรือ MEDEKA ทำให้การพูดคุยไม่ได้รับความเชื่อมั่นจากประชาชน ซึ่งตันศรี ซุลกิฟลี ยืนยันว่านายกรัฐมนตรีมาเลเซียได้ย้ำเรื่องนี้ว่ามาเลเซียในฐานะเพื่อนบ้านทำหน้าที่เป็นเพียงผู้อำนวยความสะดวก ที่ไม่สามารถก้าวล่วงถึงการปกครองในดินแดนของไทย จึงเป็นสิ่งที่ไม่สามารถตอบได้ เพราะเป็นเรื่องที่สองฝ่ายจะปรึกษาหารือกันหาทางออกทางการเมือง รวมถึงการหวาดกลัวคำว่า ปาตานี เป็นเรื่องของอัตลักษณ์ ก็เป็นสิ่งที่สองฝ่ายตกลงร่วมกันในแผนสันติภาพ JCPP



ตันศรี ซุลกิฟลี เปิดเผยด้วยว่า มีความเป็นไปได้ที่กลุ่มอื่น เช่น มาราปาตานี หรือ พูโล จะเข้าร่วมในกระบวนการพูดคุย เช่นเดียวกับภาคประชาสังคมและประชาชนในพื้นที่จะเป็นส่วนสำคัญของการปรึกษาหารือสาธารณะที่จะเกิดขึ้นในแผนสันติภาพ JCPP ส่วนที่ไทยกำลังจะมีการเลือกตั้งใหม่ เขาไม่ขอให้ความเห็น แต่เชื่อมั่นว่ารัฐบาลไทยไม่ว่าจะเป็นใครจะให้การสนับสนุนกระบวนการสันติภาพชายแดนใต้ให้สำเร็จ