ลงพื้นที่ตรวจบ้าน 'หยู ซิน ฉี' ที่ จ.ชลบุรี พบเป็นบ้านร้าง ใช้ยื่นตม. ขอต่อวีซ่า

จีนเทากลุ่มใหม่ หยู ซิน ฉี ที่ถูกกล่าวถึงในการอภิปรายในสภาเมื่อ 5 วันก่อนว่า หยู ซิน ฉี ประกาศตัวเป็น ประธานสมาคมมณฑลส่านซีแห่งประเทศไทย และได้แอบอ้างเบื้องสูงและบุคคลสำคัญ อีกเพียงวันเดียว ตำรวจจึงขยับตัวเข้าจับกุม นายหยู ซินฉี ในข้อหาฉ้อโกง หลอกให้ร่วมลงทุนมีผู้เสียหายทั้งในอังกฤษและจีน ล่าสุดวันนี้ (20 ก.พ.66) กระทรวงมหาดไทย ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าแจ้งความในข้อหาตั้งสมาคมเถื่อน และนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ แจ้งให้ดำเนินคดีในความผิดตามมาตรา 112



นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ นำพยานหลักฐานเป็นภาพถ่ายและข้อมูลพฤติการณ์ของนายหยู ซิน ฉี ประธานสมาคมมณฑลส่านซีแห่งประเทศไทย เข้าแจ้งความที่ สน.นางเลิ้ง ให้ตำรวจดำเนินคดีกับนายหยู ซิน ฉี ในความผิดตามตามมาตรา 112



นอกจากนี้ นายชูวิทย์ยังแฉสมาคมเถื่อนอีกแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ย่านถนนศรีวรา โดยใช้ชื่อสมาคมว่า หงเหมิน ของกลุ่ม 14K ฮ่องกงมาเก๊า โดยมีนายไบ๋ ชาวฮ่องกง เป็นนายกสมาคม มีลักษณะพฤติการณ์คล้ายกลุ่มมาเฟียผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะเป็นอันตรายต่อประชาชนและความมั่นคงของประเทศ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบสมาคมดังกล่าว เพราะเป็นลักษณะของสมาคมเถื่อน และมาเฟีย



ขณะที่ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ตรวจสอบ สมาคม 14K หากพบว่าเป็นสมาคมเถื่อน จะดำเนินคดีทันที ส่วนการเอาผิดกับนายหยูซินฉี ตามมาตรา 112 เมื่อรับแจ้งความแล้วก็จะเร่งดำเนินคดี



วันเดียวกันนี้ ตัวแทนจากกระทรวงมหาดไทย ได้เข้าแจ้งความที่ สน.นางเลิ้ง เพื่อเอาผิดกับนายหยู ซิน ฉี ฐานเปิดสมาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ที่นำข้อมูลเท็จไปหลอกลวงคนจีน



จากข้อมูลที่นายชูวิทย์ เปิดเผย เกี่ยวกับข้อมูลที่ใช้ยื่นตม. เพื่อต่อวีซ่า ของนาย หยู ซิน ฉี อาจเป็นเท็จ ทีมข่าว 3 มิติ จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า บ้านที่นายหยู ซิน ฉี แจ้งเป็นที่พำนักนั้น เป็นบ้านที่เอเยนต์เช่าเลขที่บ้าน เพื่อใช้กระจายให้ลูกค้าชาวจีน นำไปยื่นกับตม.ในการทำวีซ่า อยู่ประเทศไทย



การควบคุมตัวนายหยู ซินฉี ประธานสมาคมมณฑลส่านซีแห่งประเทศไทยพร้อมกับเข้าตรวจค้นบ้านพักหรู ย่านวัชรพลเมื่อ 3 วันก่อน เพื่อนำเอกสาร และรถยนต์ ไปตรวจสอบเรื่องการจัดตั้งสมาคมเนื่องจากมีการแอบอ้างหลายเรื่อง



แม้จะถูกจับและถูกเพิ่งถอนวีซ่าการเดินทางไปแล้ว แต่นายหยูซินฉี ยังถูกระบุว่าได้หลอกคนจีนเข้ามาลงทุนในประเทศไทยและขออยู่ในไทยได้เพราะมีการแอบอ้างใช้ชื่อมูลนิธิ



ทีมข่าวได้ตรวจสอบบ้าน ในต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พบว่าเป็นบ้านของหญิงรายหนึ่ง ที่นายหยูซินฉี ใช้เป็นที่อยู่ และนำเอกสารไปขอวีซ่าประเภท Retiredment หรือคนเกษียณอายุ เพื่อจะได้อยู่ต่อ 1 ปี แทนวีซ่าเดิมที่ใช้วีซ่าแบบท่องเที่ยวจะอยู่ได้เพียง 2เดือน โดยบ้านหลังนี้ พบผู้อยู่อาศัย ออกมาบอกว่าเป็นเพียงผู้ดูแลบ้าน แต่เจ้านายซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน เป็นผู้หญิงไม่ได้อยู่อาศัยที่นี่



ขณะทีมีรายงานว่าเจ้าของบ้าน ได้ประกาศให้เช่า จึงมีเอเย่นต์มาขอเช่าอาศัยบ้านหลังนี้ กระทั่งได้ใช้บ้านเลขที่ ไปขอทำวีซ่า กับเจ้าหน้าที่เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา



ขณะที่อีกสมาคมหนึ่งที่นายชูวิทย์ระบุว่าตั้งอยู่ย่านถนนศรีวรา เขตวังทองหลวง ชื่อว่าสมาคม หงเหมิน ของกลุ่ม 14K ฮ่องกงมาเก๊า มีนายไบ๋ เจ้าฮวย ชาวฮ่องกง เป็นนายกสมาคม ลักษณะเป็นการซ่องสุมพฤติการณ์คล้ายกลุ่มมาเฟีย มีแนวโน้มส่งผลกระทบความมั่นคงของประเทศ โดยมีภาพพฤติกรรมประกอบ



โดยทีมข่าวได้เข้าไปสำรวจ ถ.ศรีวรา ปรากฎว่ามี บริษัทท่องเที่ยวของชาวจีน ตั้งอยู่ในซอย ไม่ต่ำกว่า 2 แห่ง โดยไม่ได้เขียนชื่อสมาคมไว้ ด้านหน้าอาคาร มีลักษณะเป็นอาคารสูงหลายชั้น เมื่อสอบถามข้อมูลจากพ่อค้าแม่ ค้าย่านดังกล่าวระบุว่า มีกลุ่มคนจีนเข้า-ออก พลุกพล่าน ไม่ต่ำกว่า 100 คน



ขณะที่ข้อมูลการตั้งมูลนิธิ และสมาคม ที่ถูกเปิดเผยว่ามีถึง 500- 600 แห่งในหลายพื้นที่ โดยทั้งสมาคมและมูลนิธิจะต้องแจ้งต่ออำเภอ ในพื้นที่นั้นๆ จึงจะต้องตรวจสอบว่าได้มีการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องหรือไม่เพราะหากเป็นมูลนิธิที่ให้ลักลอบให้คนจีนนำไปขอวีซ่าก็มักจะเป็นมูลนิธิเถื่อน