'ชูวิทย์' เปิดเบื้องลึกขบวนการ "ตั้งด่านรีดไถ" ทำยอดส่งนายรายเดือน พบรายได้ 324 ล้าน/เดือน

คดีที่นักท่องเที่ยวชาวไต้หวัน ร้องเรียนว่า ถูกตำรวจสน.ห้วยขวางตั้งด่าน และรีดเงินเธอ 27,000 บาท เพื่อไม่เอาผิดในคดีพกพาบุหรี่ไฟฟ้าจนถึงวันนี้ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ทำได้เพียงตั้งข้อหาตำรวจบางนายในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เพราะไม่จับบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนคดีเรียกรับสินบน ฝ่ายตำรวจอ้างว่า หลักฐานภาพจากกล้องประจำตัวตำรวจถูกลบ จนนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้ออกมาเคลื่อนไหวกดดัน ด้วยหลักฐาน และพยานในคดี



ล่าสุดวันนี้ นายชูวิทย์ ได้เปิดตัวพยานชาวสิงคโปร์ ชื่อมิสเตอร์สกาย พร้อมเปิดเผยเบิ้องลึกที่นายชูวิทย์กล่าวหาเเละใช้คำว่า "ขบวนการตั้งด่านรีดไถ" ส่งกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดือนละไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท



ถ้อยเเถลงของผู้บัญชาการตำรวจนครบาล 30 มกราคม นำมาสู่การเเถลงข่าวเเละเปิดตัวพยานในวันนี้ "มิสเตอร์สกาย" ชายชาวสิงคโปร์ คือหนึ่งในกลุ่มเพื่อนของดาราสาวชาวไต้หวัน "อันหยูชิง" หรือชื่อเล่นคือ"ชาร์ลีน" สกายเล่าว่า หลังกลับจากไท์คลับ เรียกเเกรปกลับโรงเเรมย่านห้วยขวาง นั่งมาด้วยกัน 4 คน ในจำนวนนี้ 3 คนเป็นชายชาวสิงคโปร์ อีก 1 คน เป็นหญิงชาวไต้หวัน



เมื่อมาถึงบริเวณหน้าสถานทูตจีน พบตำรวจตั้งด่าน ขอตรวจสอบ เเละให้ทุกคนลงจากรถ เข้ามาจับตามตัว ค้นกระเป๋า ให้ถอดรองเท้า เเละขอดูพาสปอต สกายซึ่งพอสื่อสารภาษาไทยได้ พยายามอธิบายว่า พาสปอร์ตอยู่ที่พัก จึงเปิดรูปถ่ายในโทรศัพท์เพื่อยืนยัน



ขณะนั้นตำรวจตรวจพบุหรี่ไฟฟ้า 3 อัน อยู่ที่สกาย 1 อีก 2 อยู่กับเพื่อนชาติเดียวกัน ยืนยันว่า ช่วงเวลานั้น "ชาร์ลีน" สูบเเต่ไม่ได้มีอยู่ที่ตัวหรือพกมาด้วย เธอจึงยกโทรศัพท์เตรียมจะบันทึกภาพ เพื่อเเจ้งให้เพื่อนอีกกลุ่มระวังเรื่องตั้งด่าน เเต่ถูกเจ้าหน้าที่สั่งห้าม เเละไม่อนุญาตให้ใช้ หรือติดต่อใครระหว่างการตรวจค้น



สกายเล่าต่อว่า พวกเขาเริ่มเครียด จึงถามกลับไปว่าทำอะไรผิดหรือไม่ จากนั้นตำรวจก็เริ่มตั้งคำถามจี้ไปที่ประเด็นบุหรี่ไฟฟ้า สกายยอมรับว่าสับสน เพราะบุหรี่ไฟฟ้าที่ตำรวจบอกว่าผิดกฏหมาย มีวางขายเกลื่อนตามสถานที่ท่องเที่ยว เเละที่ตำรวจค้นเจอ ก็เป็นของที่ซื้อมาจากตลาดย่านห้วยขวาง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสน. ในราคา 800 บาท



พยานบอกว่า เขาจำหน้าตำรวจได้ หนึ่งคนสวมเเจ็คเก็ตมีหนวดเครา ทำหน้าที่เรียกเเละเก็บเงิน คนต่อมาสวมเครื่องแบบ รูปร่างสูงใหญ่ ศีรษะล้าน อีกคนรูปร่างผอม ใส่ผ้าคล้ายไอ้โม่งคลุมครึ่งหน้า

โดยถูกขู่ว่าจะต้องไปโรงพัก เเละต้องติดคุกอย่างน้อย 2 วัน



ก่อนจะคิดค่าบุหรี่ไฟฟ้า 3 อัน อันละ 8,000 บาท รวมเป็น 24,000 บาท ส่วนพาสปอร์ตคิดเพิ่มอีก 3,000 บาท รวมเป็นเงิน 27,000 บาท มีหนึ่งนาย บอกให้นับเเละเอาส่งให้ตรงมุมอับหลังกล้องวงจรปิด เหลือซ่อนไว้ 3 พัน ติดกระเป๋า



สกายยืนยันว่า พวกไม่ได้เมาหนักอย่างที่ถูกกล่าวหา มองว่าถ้าจะเรียกตรวจ ก็ต้องมีเหตุผลเพราะที่สิงคโปร์ไม่มีเเบบนี้ ยอมรับว่ารู้สึกโกรธมาก เพราะเงินที่ตั้งใจจะเก็บไว้ซื้อของกลับไปฝากญาติ ก็ไม่เหลือเเล้ว



ระหว่างนั้นนายชูวิทย์ ได้นำแฟ้มรายชื่อ พร้อมรูปภาพประกอบเปิดให้พยานดู โดยถามว่า จดจำใครได้บ้าง พยานพยักหน้า เเละพบว่านอกเครื่องเเบบในวันนั้น โกนหนวดเคราเเล้วในวันนี้



นายชูวิทย์ ยังเปิดเผยข้อมูล โดยกล่าวหาเเละใช้คำว่า "ขบวนการด่านรีดไถ" ทำยอดส่งนายเป็นรายเดือน เเยกเป็น 2 ส่วน ส่วนเเรกคือด่านนครบาล 88 สถานี ตั้งเป้า 1 เเสนบาทต่อวันต่อหนึ่งสถานี อีกส่วนเป็นด่านจราจรกลาง ประมาณวันละ 20 ด่าน ต้องทำยอดให้ได้วัน 1 เเสนต่อหนึ่งด่าน ทั้งสองส่วนจะถูกส่งเข้ากองบัญชาการตำรวจนครบาล คำนวณคร่าว ๆ จะมีรายได้ประมาณเดือนละ 324 ล้านบาท



จึงฝากถึง ผบ.ตร.เเละนายกรัฐมนตรี ให้จัดการเรื่องนี้ โดยเฉพาะปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน ตั้งด่านรีดไถ กระทบการท่องเที่ยว ถ้ายังนิ่งเฉย ยืนยันจะเปิดโปงต่อเเละขอให้ประชาชนเฝ้าติดตามบทสรุปของเรื่องนี้