เร่งหาทางเยียวยาตำรวจผลงานดี ทำคดีจับนายทุนมินลัตถูกย้ายข้ามภาค แม้ไม่มีความผิดร้ายแรง

การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจแต่ละครั้ง มักมีตำรวจที่มีผลงานดีเด่นไม่ได้รับการเลื่อนขั้น แต่การแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้กลับพบรายชื่อ ตำรวจที่่ทำคดีจับนายทุนมินลัต นักธุรกิจเมียนมา และเจ้าของบริษัทอัลลัวร์กรุ๊ป และนายพันธ์ณรงค์หรือเอ็ดดี้ เจ้าของเพจพนันออนไลน์รายใหญ่ ซึ่งมีเส้นทางการฟอกเงินจากคดียาเสพติดสาวไปถึง แต่ตำรวจที่ทำคดีนี้กลับได้รับชะตากรรมที่ถูกโยกย้ายไปจังหวัดห่างไกล ล่าสุดนายกสมาคมตำรวจแสดงความคิดเห็นว่าการโยกย้ายตำรวจที่ไม่มีความผิดร้ายแรง ไม่สมควรย้ายข้ามภาคไปไกล



การแถลงข่าวจับกุมคดียาเสพติดของกองบัญชาการตำรวจนครบาล จะมีชื่อกองกำกับการ 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนนครบาลจับกุมแทบทุกครั้ง จนได้รับประกาศเกียรติคุณ รับโล่ห์ผลงานดีเด่นด้านการปราบปรามยาเสพติดมาอย่างต่อเนื่อง ระดับประเทศ



หรือล่าสุดเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ประกาศนียบัตรแผ่นนี้ก็เป็นสิ่งการันตีได้ถึงผลงาน ที่ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่างได้มอบให้กับกองกำกับการ 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนนครบาลที่มีผลงานดีเด่น สมควรได้รับการยกย่อง สรรเสริญ และเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ข้าราชการตำรวจทั้งหลาย



และเมื่อคดีเข้าสู่การพิจารณาในชั้นศาล หลังการจับกุมนายวรวัฒน์ วังศพ่าห์ อดีตที่ปรึกษาผู้ชำนาญการสมาชิกวุฒิสภานายทหารยศพลเอก จนได้เห็นเส้นทางการฟอกเงิน และได้ตัดสินประหารชีวิตนายวรวัฒน์และจำเลยอีก 4 คน



อีกทั้งยังเป็นหน่วยงานที่แกะรอย จนพบชื่อนายพันณรงค์ ขุนพิทักษ์ หรือเอ็ดดี้ และน.ส.กัลยวีร์หรือจอย ภรรยาคนที่ 2 ที่เป็นเจ้าของเว็บพนันออนไลน์รายใหญ่ และจับกุมนายทุนมินลัต นักธุรกิจบ.อัลลัวร์กรุ๊ป โดยมีพ.ต.อ.กฤศณัฎฐ์ ธนศุภณัฏฐ์ ผกก.สส.2 บก.สส.บชน.หัวหน้าชุดสืบสวน ไปเป็นผกก.สภ.บ้านเดื่อ จ.ชัยภูมิ รวมทั้งทีมงานระดับสารวัตรก็จะถูกย้ายออกจากหน่วย ในการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้



ทีมข่าว 3 มิติได้สอบถามกับ พล.ต.อ.วินัย ทองสอง อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและปัจจุบันเป็นนายกสมาคมตำรวจ แสดงความเห็นว่า การแต่งตั้งโยกย้ายแต่ละครั้ง มักมีปัญหาลักษณะนี้มาโดยตลอด แต่กรณีที่เกิดขึ้นกับผู้กำกับการ 2 กองสืบสวนนครบาลได้รับการติดต่อจากพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติว่าไม่เกี่ยวกับเรื่องงานแต่เป็นเรื่องปัจเจกบุคคล ขณะนี้ผบ.ตร.กำลังหาทางเยียวยาให้



นอกจากนี้พล.ต.อ.วินัย ยังได้แสดงความคิดเห็นถึงการย้ายข้ามภาคว่า ตำรวจบางนายอาจจะมีครอบครัว หรือบุตรพิการที่ต้องดูแล จึงเห็นว่าหากมีการย้ายข้ามภาคโดยไม่มีเหตุความผิดร้ายแรงก็ไม่สมควรย้าย หรือหากตำรวจนายใดถูกย้ายโดยไม่เป็นธรรม ก็ตามกฎหมายใหม่ให้ยื่นร้องเรียนที่คณะกรรมการ กตร ได้ แต่ขณะนี้ยังใช้กฎหมายฉบับเก่า ก็สามารถยื่นเรื่องมาที่สมาคมตำรวจให้เป็นตัวแทนไปยื่นต่ออนุ กตร ร้องทุกข์ให้ได้



หากได้รับการแต่งตั้งโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรม สามารถฟ้องศาลปกครองได้อีกช่องทางหนึ่ง ซึ่งนายกสมาคมตำรวจเห็นว่าการโยกย้ายแต่ละครั้งมักเกิดเรื่อง ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ดี มีผลงาน แต่ไม่ได้รับการแต่งตั้งเสมอ แต่ก็ไม่ควรถูกโยกย้ายข้ามภาคไปไกล ให้ตำรวจที่ไม่ได้ทำผิดต้องเสียขวัญกำลังใจ