สังคม

บุกค้นสปาแฝงค้าประเวณี ย่านนวลจันทร์ เจ้าของให้การภาคเสธ อ้างไม่รู้

โดย chiwatthanai_t

27 ต.ค. 2565

161 views

กองปราบปรามได้สนธิกำลังบุกค้นสปา แห่งหนึ่งย่านซอยนวลจันทร์ 26 หลังพบข้อมูลเบาะแสว่ามีการค้าประเวณี โดยเปิดเป็นสปาและคลินิกบังหน้า ซึ่งเป็นที่น่าสนใจถึงกระบวนการที่ขบวนการค้าประเวณีใช้กันในปัจจุบัน ที่นำช่องทางออนไลน์มาใช้หาลูกค้าเพื่อมาใช้บริการ


ตำรวจกองปราบปราม สนธิกำลังร่วมกับตำรวจกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์, กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี นำหมายค้นและหมายจับ เข้าตรวจสอบสปาแห่งหนึ่งภายในซอยนวลจันทร์ 26 พร้อมควบคุมตัวเจ้าของในทันที หลังได้รับเบาะแสว่า สปาแห่งนี้มีการค้าประเวณีเกิดขึ้น


โดยสถานที่มีลักษณะเป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น ด้านหน้ามีป้ายชื่อคลินิกและเลขที่ใบอนุญาต ติดอยู่หน้าอาคารเพื่อบังหน้า ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ว่าเลขที่ใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่


พันตำรวจเอก สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ รองผู้บังคับการตำรวจปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือ ปคม. เปิดเผยว่า จากการรวบรวมพยานหลักฐานศาลสามารถอนุมัติหมายจับเจ้าของคลินิกในข้อหาจัดให้มีการค้าประเวณี แต่จากการสอบปากคำตัวเจ้าของร้าน ยังให้การภาคเสธ โดยอ้างไม่รู้ว่ามีการค้าประเวณี ในคลินิกตัวเอง


รองผู้การฯ ปคม. ระบุว่า การค้าประเวณีในลักษณะนี้ เป็นการใช้แพลตฟอร์มบนโลกออนไลน์ เพื่อหาสถานที่ตามที่นัดหมาย โดยหญิงสาวที่ขายบริการ จะรับงานผ่านนายหน้าและช่องทางเว็บไซต์ ก่อนนัดมาเจอกับลูกค้า ซึ่งจากการตรวจสอบ พบว่าผู้ที่เคยไปใช้บริการสามารถเข้ามาเขียนรีวิวได้บนหน้าเว็บ


จากการตรวจสอบพบว่ามีหญิงสาวค้าประเวณีมากกว่า 2 คน โดยนอกจากใช้สถานที่เป็นสปาแห่งนี้แล้ว ยังใช้คอนโดอีกแห่งหนึ่งย่านพระราม 9 ทำในลักษณะเดียวกัน ซึ่งต้องสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมและดูพยานหลักฐาน ว่ามีความเกี่ยวข้องกับคลินิกเวชกรรมแห่งนี้มากน้อยแค่ไหน


เบื้องต้นทีมข่าวได้รับการยืนยันจากอดีตพนักงานของสปาแห่งนี้ ที่ยืนยันว่า มีตารางการรับงานของหญิงสาวที่มาขายบริการจริง ซึ่งเส้นทางการเงินทั้งหมด จะไหลเข้ายังบัญชีของบริษัทสปาแห่งนี้


โดยพนักงานคนนี้ ยอมรับว่าตอนแรกที่สมัครเข้าไปคิดว่าเป็นคลินิกเวชกรรมเสริมความงาม แต่พอดู Concept ในการที่เจ้าของสั่งให้ทำภาพโปรโมท ก็รู้สึกแปลกใจว่ามีการนวดอโรม่าและให้เน้นการใช้ภาพไปทาง 18+ จนสุดท้ายมีพนักงานไปเจอถุงยางอนามัยใช้แล้วในห้องนวด จึงตัดสินใจลาออกและยังค้างค่าจ้างอยู่ประมาณ 6 หมื่นบาท


ด้านนายนัฐพล สุขบรรจง ทนายความของคลีนิค ได้เข้ามาสังเกตการณ์ โดยระบุว่าเพิ่งทราบเรื่องในวันนี้พร้อมกับนักข่าว ซึ่งที่ผ่านมาไม่รู้ข้อมูลว่ามีการค้าประเวณีกันจริงหรือไม่ แต่คาดว่าอาจเป็นไปได้ที่พนักงานจะขายบริการกันเองโดยที่คลินิกไม่รู้ เบื้องต้นยังคงต้องรอการสอบสวนพยานหลักฐานจากทางเจ้าหน้าที่ต่อไป

คุณอาจสนใจ

Related News