สังคม

ฝนตกหนักหลายพื้นที่โคราชอ่วม อ.พิมาย น้ำมูลล้นตลิ่ง ทะลักเข้านาข้าว เสียหายหลายพันไร่

21 ก.ย. 2565

115 views

กรมอุตุนิยมวิทยา ได้แจ้งเตือนตั้งแต่เมื่อวานว่า วันนี้ จนถึง วันที่ 24 กันยายน จะมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ จนถึงขณะนี้ ที่จังหวัดนครราชสีมา ได้รับผลกระทบมากพอสมควร



สถานการณ์น้ำเมื่อคืน ต่อเนื่องถึงวันนี้ ที่จังหวัดนครราชสีมา ถือว่า ได้รับผลกระทบหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่วังน้ำเขียว ตลอดวันนี้ เจ้าหน้าที่ จึงเข้าพื้นที่ เพื่อสำรวจความเสียหาย หลังจากเมื่อกลางดึกมีน้ำป่าจากแนวเขาอุทยานแห่งชาติทับลานไหลหลากเข้าท่วมถนน สะพาน และบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ ต.ไทยสามัคคี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา หน่วยกู้ภัยฮุก 31 ต้องลงพื้นที่อพยพช่วยเหลือประชาชน พร้อมทรัพย์สินของมีค่า ออกจากจุดเสี่ยงอันตรายไปอยู่บนที่ปลอดภัย ล่าสุดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ระดับน้ำได้ลดลงเกือบปกติแล้ว แต่ยังมีมวลน้ำไหลตามฝายน้ำล้น และคลองธรรมชาติอยู่ และมีร่องรอยกระแสน้ำป่าพัดกิ่งไม้ ใบหญ้า และวัชพืชราบเป็นหน้ากลอง



นายสุพจน์ แสนมี นายอำเภอวังน้ำเขียว ได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายที่บ้านคลอง 2 ต.วังน้ำเขียว พบรถจักรยานยนต์ สีดำ 1 คัน ถูกกระแสน้ำพัดตกลงไปในก้นคลองความลึกกว่า 3 เมตร สภาพพังเสียหายทั้งคัน เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันเก็บกู้ซากรถจักรยานยนต์ขึ้นมาจากคลอง โดยรถจักรยานยนต์คันที่ตกคลอง มี 2 แม่ลูกเป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าว และได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ถูกกระแสน้ำป่าพัดรถจักรยานยนต์ตกลงไปในคลองช่วงเมื่อคืนที่ผ่านมา แต่ทั้ง 2 คนรอดชีวิตได้หวุดหวิด โดยผู้เป็นแม่ อายุ 45 ปี ได้รับบาดเจ็บกระดูกนิ้วเท้าซ้ายแตก ส่วนลูกชายอายุ 11 ปี ได้รับบาดเจ็บหัวเข่าแตก



นายอำเภอวังน้ำเขียว เปิดเผยว่า เมื่อวานมีฝนตกหนักลงมาในพื้นที่อำเภอวังน้ำเขียวมากถึง 85 มิลลิเมตร และเกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 4 หมู่บ้าน ทั้งนี้ขอฝากเตือนประชาชน อ.วังน้ำเขียว ให้เฝ้าระวังฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมฉับพลัน เนื่องจากสภาพภูมิประเทศเป็นพื้นที่ภูเขา



ส่วนที่อำเภอพิมาย ล่าสุดลำน้ำมูลได้ไหลล้นตลิ่งทะลักเข้าท่วมนาข้าวในพื้นที่ตำบลสัมฤทธิ์ ที่อยู่ติดกับลำน้ำมูลได้รับความเสียหายแล้วหลายพันไร่ ต้นข้าวที่กำลังเจริญเติบโตถูกน้ำท่วมสูง เจ้าหน้าที่ได้ขึ้นธงแดงแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ตำบลสัมฤทธิ์ ซึ่งจะเกิดสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันภายใน 3-6 ชั่วโมง โดยให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ติดกับลำน้ำมูลย้ายไปอยู่ในที่ปลอดภัย เนื่องจากขณะนี้ปริมาณน้ำภายในลำน้ำมูลยังคงเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง



ทางด้านโครงการส่งน้ำ และบำรุงรักษาทุ่งสัมฤทธิ์ หรือเขื่อนพิมาย ก็ยังคงเร่งระบายน้ำออกจากเขื่อนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งระดับน้ำภายในเขื่อนพิมายขณะนี้เกินระดับวิกฤติแล้ว เจ้าหน้าที่ต้องเดินเครื่องผลักดันน้ำ จำนวน 20 เครื่อง และเปิดประตูระบายน้ำทั้ง 6 บาน เร่งผลักดันน้ำจากเขื่อนพิมายลงสู่ลำน้ำมูลโดยเร็ว



ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้วางแนวกระสอบทรายกั้นริมตลิ่งเพื่อป้องกันน้ำล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพิมาย และบริเวณปราสาทหินพิมาย เพื่อป้องกันวัตถุโบราณ และโบราณสถานล้ำค่าของชาติไม่ให้ได้รับความเสียหาย ซึ่งขณะนี้ทุกหน่วยงานยังเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำในลำน้ำมูลอย่างใกล้ชิด เนื่องจากระดับน้ำบริเวณเหนือเขื่อนพิมายเพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดระดับน้ำในลำน้ำมูลบริเวณเหนือเขื่อนพิมายอยู่ที่ 7.25 เมตร โดยระดับน้ำอยู่ต่ำกว่าตลิ่งเพียงแค่ 33 เซนติเมตรเท่านั้น

คุณอาจสนใจ

Related News