ฝนถล่มกรุงกลางดึก! รัชดา-ลาดพร้าว-รัชโยธินน้ำท่วมถนน รถดับไปต่อไม่ได้

เมื่อคืนนี้ประมาณตั้งแต่ 01.00 น. ทั่วกรุงเทพมหานครเกิดฝนตกลงมาอย่างหนักจนน้ำระบายไม่ทัน ทำให้เกิดการท่วมขังในหลายพื้นที่ ชณะที่โลกโชเซียลต่างก็ลงภาพน้ำท่วมขัง ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่รัชดา ลาดพร้าว อินทามระ ห้วยขวาง จตุจักร อารีย์



อย่างผู้ใช้TIKTOK รายหนึ่งที่บันทึกภาพภายในซอยอินทามระช่วงเวลา 02.28 น. จะเห็นว่าน้ำท่วมขังสูง และมีรถขับมาทำให้แรงกระเพื่อมของน้ำทำให้รถจักรยานยนต์ล้มระเนระราด



และอีกจุดที่ท่วมสูง คือบริเวณช่วงแยกรัชดา-ลาดพร้าว หน้าศาลอาญา ไปจนถึงแยกรัชโยธิน ถนนลาดพร้าวบางจุดก็ท่วมสูง ทั้งฝั่งขาเข้า-ขาออก จนรถไม่สามารถสัญจรผ่านได้ รถหลายคันต้องจอดเสีย เจ้าหน้าที่ต้องลงมาช่วยในการเข็ญรถ



และช่วงเช้ามึด บริเวณถนนกำแพงเพชร 2 ก็ยังมีน้ำท่วมขัง ทำให้การจราจรติดขังเป็นใช้การได้เพียง 1 ช่องการจราจร เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่เทศกิจต้องเร่งมาอำนวยการจราจรในช่วงเช้า



คุณชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ ไปดูจุดน้ำท่วมขัง ที่รัชดา ลาดพร้าว บริเวณหน้าศาลอาญา



ซึ่งผู้ว่าฯชัชชาติ กล่าวว่า ตั้งแต่เวลาประมาณ ตี 3 ที่ผ่านมา พบว่า มีฝนตกต่อเนื่องและตกหนักในหลายเขต โดยเฉพาะ เขตปทุมวัน ซึ่งมีปริมาณฝนสูงสุดถึง 111 มิลลิเมตร รองลงมาคือ ราชเทวี 97 มม. ป้อมปราบศัตรูพ่าย 92 มม. ห้วยขวาง 82 มม. พญาไท 80 มม. และพระนคร 78 มม.



โดยฝนตกหนักเมื่อคืนนี้ ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นในและฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา มีรายงานน้ำท่วมขังรวม 57 จุด ในถนนสายหลักและย่านเศรษฐกิจ เช่น พระราม 4 พระราม 3 คลองเตย และบริเวณโดยรอบย่านรัชดาภิเษก – ประชาสงเคราะห์ – ศาลาแดง – ราชดำริ และมีน้ำท่วมขัง 5 จุด ในช่วง 6 โมง ได้แก่ ถนนรัชดาภิเษก บริเวณหน้าศาลอาญา ถนนราชดำริ ถนนศาลาแดง ถนนประชาอุทิศ และถนนประชาสุข แต่ล่าสุด ตอนนี้แห้งหมดทุกจุดแล้ว



จากนั้น ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ลงพื้นที่ถนนประชาสุข เขตดินแดง พบขยะจำนวนมากถูกน้ำฝนพัดมากองอุดตันท่อระบายน้ำ บริเวณถนนและพื้นที่เชื่อมต่อซอยย่อย ส่งผลให้การระบายน้ำบางจุดล่าช้าและเกิดน้ำท่วมขังชั่วคราว จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการแก้ไข



โดยผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า "สาเหตุของน้ำท่วมครั้งนี้ เกิดจากฝนตกหนักในระยะเวลาสั้น ไม่เกี่ยวข้องกับน้ำเหนือหรือระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา โดยระบบสูบน้ำและสถานีระบายน้ำทุกแห่งได้ทำงานเต็มกำลัง ทำให้น้ำลดลงอย่างรวดเร็ว ภายในไม่กี่ชั่วโมง ทั้งนี้ กทม. อยู่ระหว่างเร่งโครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำบริเวณถนนรัชดาภิเษก เชื่อมต่อคลองลาดพร้าว ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำในแนวถนนรัชดาภิเษก และป้องกันน้ำท่วมขังซ้ำซากในพื้นที่ชั้นใน คาดว่า จะแล้วเสร็จภายในปี 2569



นอกจากนี้ ทีมข่าวของเราได้ลงพื้นที่ไป ตรวจสอบบริเวณ ถนนรัชดาภิเษก ตั้งแต่แยกรัชดา-ลาดพร้าว จนถึงแยกรัชโยธิน ช่วงประมาณ 06.30 น. ปรากฎว่า ปริมาณน้ำที่ท่วมขังได้ระบายไปจนเกือบหมดแล้ว สามารถเปิดการจราจรได้ตามปกติทั้งขาเข้า-ขาออก เช่นเดียวกับที่ถนนพหลโยธิน หน้าโลตัสลาดพร้าว ปริมาณน้ำเริ่มลดลงแล้ว



นายเจษฎา จันทรประภา ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ปัญหาน้ำท่วมขังที่เกิดขึ้นนั้น เกิดจากปริมาณฝนที่ตกลงมาอย่างหนักในพื้นที่กรุงเทพตอนใน เช่นที่เขตปทุมวันที่ปริมาณน้ำสูงสุดถึง 111 มิลลิเมตร และเกิน 50 มิลลิเมตรขึ้นไปในอีกหลายพื้นที่ ส่งผลทำให้เครื่องสูบน้ำไม่สามารถระบายน้ำได้ทัน จนเกิดปัญหาน้ำท่วมขังในหลายจุด

โดยเฉพาะถนนรัชดาภิเษก ช่วงแยกรัชดา-ลาดพร้าว ที่ท่วมสูงเกือบ 30 เซนติเมตร และการที่ระบายน้ำออกไปไม่ทันอาจเกิดจากขยะที่ขวางการระบายน้ำ



แต่ขอยืนยันว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น มาจากปริมาณฝนที่ตกสะสมเป็นจำนวนมาก ไม่ได้เกิดจากปัญหาแม่น้ำเจ้าพระยามีปริมาณน้ำสูงจาาการระบายในภาคเหนือ จนส่งผลกระทบต่อการระบายน้ำ และระบบการระบายน้ำของกรุงเทพมหานครยังคงมีศักยภาพระบายน้ำเป็นไปตามปกติ เพราะเน้นการระบายลงอุโมงค์ยักษ์ที่ผลักดันน้ำออกสู่ทะเลและลงคลองสายหลัก

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/JC-l1KD80ew