เปิดประวัติ 'พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์' ว่าที่ ผบ.ตร.คนใหม่

ตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ ที่จะเริ่มปฏิบัติหน้าที่ ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ หลังจาก วันนี้การประชุมแต่งตั้งตำรวจระดับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไปจนถึงตำแหน่งรองผู้บังคับการตำรวจอีก 254 ตำแหน่ง ได้ข้อสรุปเรียบร้อย โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ลงมติเอกฉันท์ตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นไปตามลำดับอาวุโส ส่วนตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นไปตามที่คาดการณ์มาก่อนหน้านี้ และการแต่งตั้งครั้งนี้มีกระแสว่า น่าจะเป็นไปตามความเหมาะสมกับสถานการณ์เลือกตั้งด้วย



ด้วยคะแนนเป็นเอกฉันท์ 6-0 ในที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ หรือ ก.ต.ช. ว่าผู้ที่จะได้รับตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ต่อจากพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข โดยมี พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รักษาราชการแทนนายรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุมวันนี้ ลงมติให้พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็น ผบ.ตร.คนที่ 13

โดยพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 38 อาวุโสอันดับ 2 ผลงานโดดเด่น ในช่วงที่ผ่านมา เป็นหัวหน้าศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือ ศูนย์ PCT รวมทั้งพนันออนไลน์ และปราบปรามเด็กแว้น ซึ่งเป็นไปตามความคาดหมายมาก่อนหน้านี้ แต่พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์จะเกษียณอายุราชการในปีหน้า จึงเป็นที่คาดการณ์และจับตากันว่า ผู้ที่จะเป็น ผบ.ตร.ในลำดับต่อจากนี้ เป็นที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง จึงต้องมาดูกันที่ลำดับรอง ผบ.ตร. และระดับ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ที่แต่ละคนมีที่มา และพลังภายในอย่างไร



ตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ว่าง 4 ตำแหน่ง ผู้ที่ขึ้นมาแทนประกอบด้วยพล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน พล.ต.ท.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ สายตรง พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล และ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล



ส่วนผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือ ผช.ผบ.ตร.ว่าง 6 ตำแหน่ง ผู้ที่ได้ขึ้นมาคือ พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ พล.ต.ท.วีระ จิรวีระ และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา



ขณะที่ตำแหน่ง ผู้บัญชาการ ว่าง 13 ตำแหน่ง มีตำแหน่งที่น่าสนใจคือผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พบว่า พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ภ.2 ได้รับความไว้วางใจจาก ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้นั่งตำแหน่ง น.1 โดยมี พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค2 มานั่งในตำแหน่งผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนนครบาล ที่ต้องทำงานประสานกัน



และผู้ที่ไปนั่งตำแหน่งผบช.ภ.2 แทนคือพล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ส่วนพล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ส. ได้ลงพื้นที่ ผบช.ภ.8 แทนที่ พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ซึ่งเกษียณอายุราชการ และพล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ จเรตำรวจ ถนัดงานสืบสวนสอบสวนอีกคน เข้ามานั่ง ผบช.สพฐ.



ส่วนตำแหน่งรองผู้บัญชาการที่ได้ขยับขึ้น มี พล.ต.ต.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา รอง ผบช.ก.ขยับขึ้น ผบช.สอท.หรือไซเบอร์ พล.ต.ต.เสนิตย์ สำราญสำรวจกิจ รอง ผบช.น.ขยับเลื่อนเป็น ผบช.รร.นรต. พล.ต.ต.อนุชา รมยนันท์ รอง ผบช.สกพ.เลื่อนเป็น ผบช.สง.ก.ตร. พล.ต.ต.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต รอง ผบช.ภ.7 เลื่อนเป็น ผบช.สยศ.ตร. พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รอง ผบช.น.เลื่อนเป็นผบช.กมค. พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ รอง ผบช.สตม.ขยับขึ้น ผบช.สกพ.



ระดับ ผบก.-รอง ผบที่น่าสนใจ อาทิ พล.ต.ต.เสกสันต์ ชูรังสฤษฎิ์ ผบก.สส.จชต. มาเป็น ผบก.ภ.จว.ยะลา แทนพล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ ผบก.ภ.จว.ยะลา เลื่อนเป็น รอง ผบช.สพฐ.ตร. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผบก.สส.บช.น.เลื่อนเป็น รอง ผบช.น. เช่นเดียวกับ พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว ผู้การ 191 เลือนขึ้นเป็น รอง ผบช.น. โดยมีพ.ต.อ.ภานพ วรธนัชชากุล รองผู้การ 191 ได้เลื่อนขึ้นมาแทน