รวบ 18 มงกุฏ ตระเวนหลอกขายปุ๋ย พบทำซ้ำคดีเดิม 4 ครั้ง ทำเหยื่อสูญเงินรวมกว่า 100 ล้าน

ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงประชาชน ที่หลอกชาวบ้านทั่วประเทศ ถูกตำรวจกองปราบปรามจับตั้งแต่ปี 2550 พอพ้นโทษก็มาก่อคดีเดิมซ้ำจนถูกจับ 3-4 รอบมาแล้ว ซึ่งทุกครั้งจะมีชาวบ้านตกเป็นเหยื่อสูญเงินรวมแล้ว 10 ล้านไปจนถึงกว่า 100 ล้านบาท

ล่าสุดเพิ่งพ้นโทษมาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ เพียงไม่ถึง 6 เดือนที่พ้นโทษ ได้ออกมาจัดงานมหกรรมหลอกลวงชาวบ้านไปได้กว่า 15 ล้านบาท ไปติดตามรายงานจากคุณสุมนา แจวเจริญวงศ์


ตั้งแต่ปี 2550 ผู้เสียหายหลายคนได้แจ้งความจับนางนาฏศิลป์ ซึ่งได้ก่อคดีฉ้อโกงหลอก อ้าง เปิดบริษัทมีทุนจดทะเบียน 5,000 ล้านบาท ที่ทำทีมาติดต่อซื้อขายเพชรจากผู้เสียหาย โดยผู้ต้องหาติดต่อผ่านอดีตนักการเมืองและอดีตทหารยศนายพล เพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือ แต่จ่ายเช็คไม่สามารถขึ้นเงินได้ มีผู้เสียหายไปแจ้งความร่วมมูลค่า 150 ล้านบาท เมื่อพ้นโทษ ปี 2554 ก็ฉ้อโกงเช่นเดิมและถูกจับอีก


ครั้งล่าสุด นางนาฏศิลป์พ้นโทษออกมา เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทันทีที่พ้นโทษ ก็ดำเนินการจัดสัมมนาขายปุ๋ย และจัดมวย รวมกว่า 25 ครั้ง เมื่อไปยังภูมิภาคใด ก็จะชักชวนผู้นำ หรือแต่งผู้จัดการสาขา

โดยค่าสมัคร 16,000 บาท และมอบปุ๋ยจำนวน 20 กระสอบ แต่จูงใจชาวบ้านด้วยการแจกทอง 2 บาทและรถยนต์ 1 คัน ซึ่งทำให้มีชาวบ้านทุกภูมิภาคที่ไปจัดสัมมนา หลงเชื่อสมัครเข้าร่วมจำนวนมาก โดยไม่มีใครเอ๊ะใจเบื้องหลังของนางนาฏศิลป์แม้แต่น้อย


ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคหรือ ปคบ.จับกุมนางนาฏศิลป์ได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ในอ.บางพลี จ.สมุทรปราการ และควบคุมตัวมาสอบสวน ซึ่งพฤติกรรมของผู้ต้องหามักจะเข้าไปตีสนิทกับบุคคลที่มีความน่าเชื่อถือเช่นเดิม เมื่อเปิดสัมมนาทำทีแจกทอง แจกรถ แจกปุ๋ย ซึ่งที่จริงผู้สมัครต้องเสียเงินค่าจองรถอีก 60,000 บาท แต่ไม่มีใครรู้ว่าเมื่อไปอยู่หลังเวทีถูกยึดคืน


เมื่อตำรวจไปตรวจสอบก็พบว่าไม่มีปุ๋ยขาย หรือบางคนได้เป็นปุ๋ยอินทรีย์ปลอม ส่วนรถก็เพียงถ่ายภาพ แต่สุดท้ายยึดคืนทั้งหมด ตำรวจได้อายัดเงิน 3 บัญชี กว่า15ล้านบาท ซึ่งได้ถอนออกทันที ผู้ต้องหารายนี้มีการทำผิดคดีฉ้อโกงประชาชนซ้ำแล้วซ้ำอีก โดยไม่เกรงกลัวกฏหมาย เจ้าหน้าที่จึงเสนอให้ ปปง.ใช้มาตรการยึดทรัพย์และฟอกเงินเพื่อหาทางมิให้ผู้ต้องหาทำผิดซ้ำอีก