'หมอยง' คาดปลาย ก.ค.นี้ อาจถึงจุดพีคโควิดระลอก 6 - 'หมอมนูญ' ชี้โอมิครอน BA.5 ติดง่ายสุด

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างน้อย 2 คน ระบุว่า การระบาดของโควิด-19 ระลอกที่ 6 ให้จับตาที่ปลายเดือนนี้ น่าจะเป็นจุดสูงสุดของการระบาด และจำนวนผู้ติดเชื้อจะค่อยๆลดต่ำลง เมื่อโรงเรียนปิดเทอมซึ่งอีกหลายเดือน



นายแพทย์ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุค ด้วยการอธิบายกราฟที่เห็นนี้ว่า การระบาดของ covid 19 รอบใหม่นี้นับเป็นระลอก ที่ 6 เป็นการระบาดด้วยสายพันธุ์ โอมิครอน BA.5 ตามรูป จะมีจุดสูงสุดปลายเดือนนี้และตลอดเดือนหน้า สิงหาคม เดือนหน้ามหาวิทยาลัยก็จะเปิดเทอมหมด และจำนวนผู้ติดเชื้อจะเริ่มลดลงในช่วงนักเรียนสอบและปิดเทอม



จำนวนผู้ป่วยถ้าคิดเป็นสัดส่วนจะพบว่ามีผู้ป่วยต้องเข้าโรงพยาบาลน่าจะอยู่ที่ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ หรือน้อยกว่า และมีอัตราการเสียชีวิตจะอยู่ที่ไม่เกิน 1% ของผู้ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล หรือน่าจะประมาณ 0.1% หรือน้อยกว่าของผู้ที่ติดเชื้อ ซึ่งตัวเลขนี้กำลังลดลงไปใกล้เคียงกับไข้หวัดใหญ่



เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อจำนวนมากตามฤดูกาลของโรคทางเดินหายใจ จึงเห็นสัดส่วนของการนอนโรงพยาบาล และการเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน



ดังนั้น ถึงแม้จะมีผู้ป่วยเป็นหลักหมื่น หรือหลายหมื่น จะมีผู้เข้ารับการรักษาและแจ้งยอดให้กระทรวงสาธารณสุข จะอยู่ที่ 2,000 คน และมีการเสียชีวิต 20 คน ดังนั้นอัตราการเสียชีวิต ในจำนวนนี้ จะอยู่ที่ยอดผู้ป่วยติดเชื้อทั้งสิ้นหลายหมื่นคน ซึ่งสูงกว่าระลอกที่ 5 แน่นอน เพราะส่วนใหญ่จะไม่มีอาการหรือมีอาการน้อย



ขณะที่ นายแพทย์มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า จากเมื่อต้นเดือนมิถุนายน จนถึงวันนี้ สรุปได้ว่า การระบาดรอบนี้ น่าจะเป็นการระบาดรอบใหญ่ เหมือนช่วงเดือน มีนาคม ที่มีการแพร่ระบาดอย่างหนักของเชื้อไวรัสโอมิครอนสายพันธุ์ BA.1, BA.2 ตัวเลขผู้ติดเชื้อขณะนี้กำลังเพิ่มเป็นทวีคูณ และจากนี้ไปไม่นานจำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบ ผู้ป่วยใส่ท่อหายใจ รวมทั้งผู้เสียชีวิต มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น



ปัจจัยสำคัญที่สุดคือ เชื้อไวรัสโควิด-19 โอมิครอนสายพันธุ์ย่อยที่ระบาดขณะนี้ กำลังเปลี่ยนเป็น BA.5 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่แพร่ระบาดได้เร็วที่สุด ติดต่อกันง่ายที่สุด และหลบหลีกภูมิคุ้มกันได้ดีกว่าทุกสายพันธุ์เดิม ตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดของกระทรวงสาธารณสุขต่ำกว่าความเป็นจริงมาก เพราะรายงานเฉพาะผลตรวจ RT-PCR ขอให้ดูตัวเลขของผู้ป่วยปอดอักเสบ ผู้ป่วยใส่ท่อหายใจ และผู้เสียชีวิตเป็นหลัก แนวโน้มกำลังเพิ่มขึ้นแน่นอน



ขณะที่วันนี้ ศบค. รายงานผู้ติดเชื้อโควิด มีจำนวนผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาลรายใหม่ 2,257 คน หายป่วยกลับบ้าน 2,120 คน กำลังรักษา 24,191 คน ส่วนยอดผู้เสียชีวิตวันนี้ 28 คน จำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 770 คน และใส่เครื่องช่วยหายใจ 337 คน