สังคม

ศบค.ขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินคุมโควิดต่อ - ศธ.เผยยอดติดเชื้อในโรงเรียนพุ่ง

โดย panwilai_c

8 ก.ค. 2565

79 views

ศบค.มีมติขยายประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินออกไปจนถึงเดือนกันยายนนี้ หลังพบสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เริ่มพุ่งสูงขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มสถานศึกษาที่พบอัตราการแพร่ระบาดเพิ่มถึง 2 เท่าในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา



ที่ประชุม ศบค. มีมติขยายประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ออกไปจนถึงวันที่ 30 กันยายนนี้ โดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าเป็นการขยายเพื่อควบคุมโรคเท่านั้น ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ เพื่อการจำกัดเสรีภาพของประชาชน แต่อย่างใด



นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. เปิดเผยว่าสถานการณ์ในภาพรวมตั้งแต่สัปดาห์นี้อาจจะได้เห็นกราฟผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น และจะถึงจุดสูงสุดในช่วงเดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน



ซึ่งขณะนี้ มี 23 จังหวัด ที่กราฟตัวเลขเพิ่มสูงขึ้น อย่างต่อเนื่อง ทั้ง กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ ชลบุรี ภูเก็ต เชียงใหม่ โดยส่วนใหญ่ เป็นจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว



ศบค. จึงขอความร่วมมือให้ประชาชน ปฏิบัติตัวตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ใส่หน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันการแพร่เชื่อให้ได้มากที่สุด โดยตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด 19 วันนี้ 2,144 คน เสียชีวิต 20 คน ผู้มีผลบวกจากเอทีเคอีก 3,573 คน



ขณะเดียวกันหลังการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และ ผศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ระบุถึง สถานการณ์โควิดใน กทม.ที่มีแนวโน้ม เพิ่มมากขึ้น หลังพบว่ามีเตียงว่างเหลือราว 40% โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นใน ที่เตียงอยู่ในภาวะตึงตัว แต่รอบนอกยังรองรับได้



ขณะที่ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่รักษาในโรงพยาบาล เป็นกลุ่มผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว หรือ กลุ่ม 608 ได้สั่งให้เตรียมความพร้อมของศูนย์พักคอยในชุมชน หรือCommunity Isolation ไว้รองรับผู้ติดเชื้อที่ไม่มีที่กักตัว ป้องกันความเสี่ยงการแพร่ในชุมชน



โดยขณะนี้มีผู้ติดเชื้อโควิดใน กทม.เฉลี่ยวันละ 2,000 คน จึงให้เตรียมแผนสำรองยา เวชภัณฑ์ และบุคลากรทางการแพทย์ ส่วนกลุ่มเสี่ยง 608 ให้เร่งฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นทันที สำหรับข้อบังคับการสวมหน้ากากอนามัย กทม.ไม่สามารถออกประกาศบังคับให้สวมหน้ากากอนามัยได้ เพราะต้องยึดตามคำสั่งของ ศบค.ชุดใหญ่



ส่วนกิจกรรมดนตรีในสวน และหนังกลางแปลง ซึ่งเป็นข้อกังวลของที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ก็ได้แนะนำให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และเว้นระยะห่าง เพื่อลดความแออัดตลอดกิจกรรม โดยผู้ว่าฯ กทม.จะขอเป็นตัวอย่าง สวมหน้ากากอนามัยในพื้นที่สาธารณะ เช่น การวิ่งออกกำลังกายทุกเช้า



สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในสถานศึกษา ล่าสุด นายสุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ระบุว่า ภาพรวมของโรงเรียนทั่วประเทศตั้งแต่ช่วงเปิดเทอมมีอัตราการติดเชื้อลดลงจนถึงหลักสิบคนต่อวัน จนกระทั่งช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเริ่มกลับมาเป็นตัวเลขหลักร้อย และพุ่งขึ้นมาเป็นเกือบ 200 คนต่อวัน ซึ่งถือว่าเป็น 2 เท่าต่อวัน



เช่นกรณีโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมตั้งแต่เปิดเทอมวันที่ 17 พฤษภาคม จนถึงขณะนี้รวมกว่า 700 คน โดยช่วงแรกเป็นการติดเชื้อจำนวนไม่มาก จนกระทั่งเพิ่มเป็น 25 คนต่อวัน ทำให้ต้องปรับมาตรการรูปแบบการเรียนการสอน



จากนี้กระทรวงศึกษาธิการจะเน้นย้ำกับผู้บริหารสถานศึกษา ผู้ปกครอง นักเรียน ให้ปฏิบัติตามมาตรการ 6-6-7 อย่างเข้มงวด ส่วนการจัดการเรียนการสอน ขณะนี้จะยังยึดตามรูปแบบ on site ตามปกติทั่วประเทศ ส่วนการเรียนออนไลน์หรือการเรียนทางไกลถือเป็นแผนสำรอง



ขณะที่ในส่วนของโรงเรียนสังกัด กทม. พบว่า ส่วนใหญ่เป็นเด็กโต เพราะมีกิจกรรมรวมกลุ่ม ส่วนเด็กเล็กพบ ติดเชื้อ 1 เปอร์เซ็นต์ จึงขอให้โรงเรียน 437 แห่ง เตรียมแผนรับมือ จัดการเรียนในรูปแบบออนไลน์ให้พร้อม เบื้องต้น ยังให้ทุกโรงเรียนเปิดเรียนออนไซด์ได้ตามปกติเช่นกัน



เบื้องต้นศบค.เห็นชอบพิจารณาปรับใช้วัคซีนไฟเซอร์ Maroon cap สำหรับฉีดในกลุ่มเป้าหมายเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี จำนวน 3 ล้านโดส ซึ่งขณะนี้วัคซีนอยู่ระหว่างรอรับมอบเพื่อการใช้งาน

คุณอาจสนใจ

Related News