เจาะประเด็น “บ่อนพนันกลางกรุง” เปิดยิ่งใหญ่อลังการ สังคมตั้งคำถามใครเป็นเจ้าของ?

ตำรวจนครบาล แถลงชี้แจง จับบ่อนขนาดใหญ่ กลางกรุง ทำไมจึงไม่มีข่าวต่อสารธารณะ ตรวจสอบพบ เป็นบ่อนของเฮีย ต.หรูหรา คล้ายบ่อนในต่างประเทศ ยังไม่มีการยืนยันว่า เปิดมานานเท่าใดแล้ว

การจับบ่อนการพนันกลางกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายน แต่กลับไม่มีข่าวหลุดออกมาถึงสื่อมวลชน ทั้งที่เป็นบ่อนหรูหราขนาดใหญ่ จนถูกตั้งข้อสังเกตว่าปิดข่าวหรือไม่ ยิ่งไปกว่านั้นปกติจับบ่อนหากเป็นตำรวจ 191 ไปจับ ต้องมีคำสั่งย้ายตำรวจท้องที่ แต่ก็ไม่มีการย้าย

จนเมื่อช่วงดึกคืนวานนี้ (26 มิ.ย.) ข่าวจับบ่อนจึงเพิ่มหลุดออกมา ก่อนจะมีข้อมูลระบุว่า ตอนแรกมีรายงานว่าจับผู้ต้องหา 77 คน ทำไปในบันทึกการจับกุมจึงเหลือเพียง 50 กว่าคน ตำรวจพยายามชี้เเจงว่าจำนวน 77 คน เป็นเพียงคำบอกเล่า แต่เมื่อนับจริงๆ มี 52 คนเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีการตั้งข้อสังเกตว่า บ่อนที่หรูหราใหญ่โตทำไมจึงเปิดได้ โดยที่ก่อนหน้านี้ทำไมตำรวจท้องที่ไม่รู้ คำถามสุดท้ายคือ เป็นบ่อนของใคร?

ทีมข่าวลงพื้นที่ไปตรวจสอบบ่อนการพนันบาคาร่า ย่านสุทธิสาร ชั้นใต้ดินของอาคารแห่งหนึ่ง ในซอยรัชดาภิเษก 18 พบว่าหากเป็นช่วงกลางวัน แทบจะดูไม่ออกว่าสถานที่แห่งนี้ เป็นบ่อนการพนันคาบาร่า เป็นเหมือนร้านคาราโอเกะ ชั้นใต้ดินของโรงแรมทั่วไป ซึ่งก่อนหน้านี้เปิดเป็นโต๊ะสนุ๊กเกอร์ แต่เมื่อไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะย่านนี้เป็นแหล่งของทัวร์ชาวจีน จึงปิดไป โดยหน้าทางเข้ามีป้ายชื่อผู้เช่าสถานที่ตั้งแต่ปี 2562 และได้ถูกยึดคืน

หลังจากตำรวจสายตรวจ และปฏิบัติการพิเศษ 191 นำกำลังเข้าตรวจค้นภายในอาคารในซอยรัชดาภิเษก 18 โดยภายใน มีโต๊ะ และอุปกรณ์เล่นการพนันครบ มีการแลกชิป เมื่อตรวจยึดของกลาง เป็นโต๊ะพนันบาคาร่า 30 รายการ เงินสดกว่า 4.3 ล้านบาท นักพนัน 52 คน ยื่นประตัวชั่วคราวไป 4 คน เป็นคนไทย 14 คน จีน 22 คน เมียนมา 14 คน และมาเลเซีย 2 คน

โดยเช้าวันนี้ (27 มิ.ย.) ตำรวจ สน.สุทธิสาร ได้นำนักพนันที่เหลือ 48 คน ส่งฟ้องต่อศาลแขวงพระนครเหนือ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ถนนแจ้งวัฒนะ ข้อหาลักลอบเล่นการพนันบาคาร่า พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต หลังจากนั้นได้มีชายชาวจีนขับรถมา และได้ขึ้นไปสอบถามถึงนักพนันที่ถูกจับว่าส่งตัวไปที่ใด แต่เมื่อทีมข่าวได้สอบถามกับชายชาวจีนคนดังกล่าว ปฏิเสธว่าไม่ได้มาเรื่องบ่อนการพนัน

การเข้าจับกุมครั้งนี้ ตำรวจสายตรวจ 191 ได้รับคำสั่งจากผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้เข้าไปตรวจสอบเพราะมีผู้ร้องเรียนว่า ในช่วงกลางคืนลักลอบปาร์ตี้ยาหรือเล่นการพนัน เมื่อตำรวจไปถึง รปภ.ได้วิ่งเข้าไปภายในชั้นใต้ดิน เจ้าหน้าที่จึงวิ่งตามเข้าไป จนพบว่าเป็นบ่อนคาบาร่าขนาดใหญ่ เต็มไปด้วยนักพนันชาวจีน และมีชาวไทยด้วย

เมื่อสอบถามผู้อาศัยในย่านนี้ เล่าว่า อาคารดังกล่าวจะมีบริษัททัวร์ชาวจีนอยู่จำนวนมาก และคนที่เข้ามาเล่นการพนันก็เป็นชาวจีนมีฐานะนัดกันมา

ทั้งนี้ มีรายงานว่าบ่อนคาบาร่าชั้นใต้ดินเป็นของ เฮีย ต. ซึ่งกว้างชวางในแวดวง หลังรัฐบาลผ่อนคลายให้เปิดสถานบันเทิง ได้มีนักธุรกิจชาวจีนเช่าเปิดมาตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน โดยพบว่าก่อนหน้านี้ได้มีการลักลอบเปิดในพื้นที่อื่น ได้เช่าตึกและนำอุปกรณ์การพนันเข้ามาติดตั้งที่ย่านรัชดา ซึ่งเป็นที่ทราบดีว่าย่านนี้ เป็นธุรกิจของชาวจีนครบวงจร เพื่อรองรับนักพนันชาวจีน ซึ่งคาดว่าน่าจะทำธุรกิจทัวร์ศูนย์เหรียญ และคาดว่ากลุ่มคนจีนที่มาเปิดบ่อน ได้มีผู้ใหญ่โทรศัพท์มาขอต่อรองกับเจ้าหน้าที่ หลังทราบข่าวว่ามีการจับกุม แต่ตำรวจชุดจับกุมได้ดำเนินคดีตามขั้นตอน และพยานหลักฐานที่มีอยู่

ล่าสุด ศาลแขวงพระนครเหนือ ได้สั่งลงโทษจำคุกเจ้ามือ 3 เดือนครึ่ง ส่วนนักพนันจำคุก 15 วัน ปรับ 11,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา อย่างไรก็ตาม แม้ในทางการข่าว จะระบุว่า บ่อนเป็นของ เฮีย ต. แต่ตำรวจยังไม่มีหลักฐานจึงยังไม่สามารถดำเนินคดีได้