สังคม

เร่งสำรวจความเสียหาย เหตุไฟไหม้ รง.รีไซเคิล ราชบุรี

โดย panwilai_c

16 มิ.ย. 2565

87 views

เหตุไฟไหม้โกดังโรงงานรีไซเคิล แว็กซ์ กาเบ็จ ที่จังหวัดราชบุรี นานกว่า 10 ชั่วโมง จนถึงขณะนี้แม้จะควบคุมเพลิงในวงจำกัดได้ แต่ยังไม่ดับสนิท ขณะอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ส่งหน่วยปฎิบัติการพิทักษ์สิ่งแวดล้อมภาค 8 ตรวจสอบผลกระทบไอระเหยในรัศมี 1 กิโลเมตร



ควันไฟจากสารเคมีและประกายเพลิง ทำให้ถังขนาด 200 ลิตร ระเบิดออกมาเป็นลูกๆ มองเห็นจากระยะไกล หลังจากเกิดเพลิงไหม้โรงงานแว็ก กาเบจ รีไซเคิลเซ็นเตอร์ ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี



เหตุเพลิงไหม้คุกรุ่นตั้งแต่เวลาราว 6 นาฬิกา โดยชาวบ้านบอกว่าเป็นประกายเพลิงเล็กๆในช่วงเวลานั้น ก่อนจะโหมกระพืออย่างรวดเร็วตั้งแต่ 7 นาฬิกา เป็นต้นมา โดยลุกไหม้โกดัง ที่อยู่ติดกัน ซึ่งในโกดังมีถังน้ำมันขนาด 200 ลิตร ที่ใช้บรรจุสารเคมีเก่า จำพวกโซเว้นท์ และกากสีเก่า ที่จะนำไปรีไซเคิล ตามที่โรงงานเคยได้รับใบอนุญาตประเภท



เจ้าหน้าที่อบต.รางบัว ประสานรถดับเพลิงทั้งจากปภ. จากอบจ.และพื้นที่ใกล้เคียงรวมกว่า 50 คันมาเพื่อดับเพลิง แต่ทำได้ยาก ส่วนหนึ่งเพราะแหล่งน้ำดิบอยู่ไกล และเชื้อเพลิงก็มีส่วนผสมน้ำมัน จนที่สุดต้องปล่อยให้โกดัง 3 หลัง ไหมจนเชื้อเพลิงหมด แล้วจึงควบคุมไม่ให้ลุกลามไปโกดังอื่นๆแทน



เหตุการณ์นี้ไม่มีผุ้ได้รับอันตรายก็จริง แต่กลิ่นควันเหม็นฉุน และละอองคล้ายหยดน้ำตกลงมา ทำให้เกิดอาการแสบคัน ซึ่งผุ้คนในพื้นที่ใกล้เคียงกังวงใจต่อผลกระทบที่เกิดขึ้น ทั้งต้องการให้เร่งย้ายถังสารเคมีเหล่านี้ออกจากพื้นที่ และระหว่างที่ยังย้ายออกไปไม่ได้ ต้องหามาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุเช่นนี้อีก เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยมีเพลิงไหม้ถังสารเคมีมาก่อนแล้วเช่นกัน



ร่องรอยของถังที่ถูกเพลิงไหม้แล้วระอุลอยขึ้นฟ้าก่อนจะตกลงมา ยังกระจายอยู่รอบๆที่เกิดเพลิงไหม้ และทีมข่าว ก็สำรวจโกดังข้างเคียงพบว่า มีถังลักษณะเดียวกันเก็บอยู่ใกดังอีกไม่น้อย ทั้งหมดอยู่ในสภาพถูกทิ้งรอการเคลื่อนย้ายนำไปกำจัด



จากข้อมูลพบว่าโรงงานนี้เคยมีอนุญาตประกอบกิจการโรงงานประเภทรีไซเคิลขยะ ถึง 9 ฉบับ แต่ถูกศาลสั่งหยุดประกอบกิจการรีไซเคิลไปนานแล้ว หลังจากถูกชาวบ้านตำบลน้ำพุ ที่อยู่ในพื้นที่ติดกับตำบลรางบัว ฟ้องร้องเรื่องผลกระทบที่มีต่อแหล่งน้ำ ซึ่งถือเป็นการฟ้องแบบกลุ่ม หรือคลาสแอคชั่นครั้งแรกของประเทศ ที่ทำให้โรงงานต้องรับผิดชอบผู้ฟ้องที่มีจำนวนมาก



ขณะที่อุตสาหกรรมจังหวัดราชบุรี ระบุว่าโรงงานหยุดประกอบกิจการไปแล้ว แต่ยังเก็บสารเคมีไว้อยู่ และอยู่ระหว่างรอเคลื่อนย้ายไปกำจัดให้ถูกตั้ง ซึ่งประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาระดับจังหวัด เมื่อ ๓๑ พฤษภาคมที่ผ่านมา เห็นชอบที่จะให้โรงงานเร่งขนย้ายออกไป และมีนัดที่โรงงานต้องแจ้งความคืบหน้าของแผนการเคลื่อนย้ายถังสารเคมีไปกำจัด แต่ก็เกิดเพลิงไหม้ขึ้นก่อน



ล่าสุด อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เปิดเผยหลังจากลงพื้นที่ติดตามการควบคุมเพลิงว่า ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สั่งให้บังคับใช้กฎหมายต่อโรงงานที่อาจผิดตาม พรบ.วัตถุอันตราย และกฎหมายอื่นของ คพ. พร้อมสั่งให้หน่วยปฎิบัติการพิทักษ์สิ่งแวดล้อม ติดตาม ตรวจสอบไอระเหยของสารเคมีที่ชุมชนท้ายลมรัศมีราว 700-1 กิโลเมตร รอบที่เกิดเหตุเพื่อติดตามผลกระทบ



เจ้าหน้าที่ระบุว่าตอนนี้ยังไม่พบสารอินทรีย์ระเหยง่าย ก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ และก๊าซคาร์บอนมอนออกไซด์ จึงยังไม่มีการอพยพชุมชนใกล้เคียง



อย่างไรก็ตาม ทีมข่าวพบว่าในระหว่างที่กระแสลมบางเบา ทำให้ละออกฝุ่นควันที่ลอยฟุ้งอยู่ตกลงรอบๆที่เกิดเหตุและสัมผัสผิวเนื้อหรือสภาพแวดล้อม พบเป็นละอองสีขาว และรู้สึกได้ว่ามีอาการแสบคันตามผิวหนัง ซึ่งได้รับการยืนยันจากอธิบดีกรมควบคุมมลพิษว่า เป็นขี้เถ้าจากโซลเว้นท์ที่เผาไหม้ ไม่สมบูรณ์ และกระจายตกลงมาสู่ผิวหนัง ซึ่งมีอันตรายเช่นกัน และได้แจ้งเตือนให้ทราบถึงอันตรายของสารชนิดนี้แล้วเช่นกัน

คุณอาจสนใจ

Related News