คนไทยฆ่ากันเอง ดับสยองสามี-ภรรยา พร้อมลูกแฝดในท้อง ยัดศพในรถที่ไต้หวัน ก่อนบินหนีกลับไทย ตร.คาดขัดแย้งเรื่องเงิน

เกิดเหตุฆาตกรรมคู่สามี-ภรรยา ชาวไทย ที่ไต้หวัน โดยผู้ต้องหาที่เป็นคนไทยด้วยกัน ได้นำศพของผู้เสียชีวิตทั้งสอง พร้อมลูกฝาแฝดในครรภ์ ยัดใส่รถยนต์แล้วนำไปจอดทิ้งไว้ใกล้กับสถานีรถไฟแห่งหนึ่ง ก่อนบินหนีกลับมาไทย

โลกออนไลน์แชร์ข่าวสะเทือนขวัญ ซึ่งเกิดขึ้นที่ไต้หวัน หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบรถยนต์ BMW สีขาวคันหนึ่ง ที่จอดไว้บริเวณลานจอดรถของสถานีรถไฟฟ้าความเร็วสูงเถาหยวน หลังได้รับแจ้งว่ามีกลิ่นเหม็นฟุ้งตลบอบอวนออกมาจากรถคันดังกล่าว และพบคราบน้ำเหลืองไหลซึมออกมา ซึ่งพบศพชาย-หญิง ถูดยัดเอาไว้ในรถยนต์คันดังกล่าว ในวันที่ 10 มิถุนายน ที่ผ่านมา

รายงานระบุว่า ผู้เสียชีวิตทั้งสองอายุประมาณ 30 – 40 ปี ซึ่งสภาพศพน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 วัน โดยที่บริเวณศีรษะมีร่องรอยการถูกตีด้วยของแข็ง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นการฆาตกรรม และจากการชันสูตรศพพบว่า ฝ่ายหญิงตั้งครรภ์ลูกแฝดชาย-หญิง ได้อย่างน้อย 5 เดือน

จากการสืบสวนพบว่า ผู้ต้องหาที่ลงมือฆ่า เป็นชายชาวไทย ที่ได้รับสัญชาติไต้หวัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่าใช้ "แซ่หวัง" ขณะที่ผู้หญิงที่เสียชีวิตเดิมเป็นชาวไทยและได้รับสัญชาติไต้หวัน ส่วนผู้ชายเป็นชาวไทย ที่ถือบัตรพำนักในไต้หวัน ซึ่งทั้งสองคนใช้สกุล "แซ่หลี่" โดยรายงานระบุว่า ฝ่ายหญิงรู้จักกับผู้ต้องหาเป็นอย่างดี เนื่องจากเคยเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนมา

ผู้ต้องหาได้มาทำงานในไต้หวันในฐานะผู้ดูแลหอพักคนงาน และได้มีการเจรจาร่วมทุนทำธุรกิจเกี่ยวกับการจัดหาแรงงานต่างชาติกับผู้ตายทั้ง 2 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า แรงจูงใจในการก่อเหตุน่าจะมาจากความขัดแย้งเรื่องเงิน

จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่า ก่อนเกิดเหตุทั้ง 3 คนนัดพบกันในวันที่ 8 มิถุนายน ก่อนที่คู่สามี-ภรรยาจะหายตัวไป ซึ่งผู้ต้องหาได้ขับรถมาจอดเอาไว้ บริเวณลานจอดรถของสถานีรถไฟฟ้าความเร็วสูงเถาหยวน ก่อนที่จะหายตัวไปอย่างรวดเร็ว กระทั่งเจ้าหน้าที่มาพบศพของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน ในวันที่ 10 มิถุนายน

ด้านเว็บไซต์ข่าวโฟกัส ไต้หวัน (Focus Taiwan) รายงานว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีกลับมายังประเทศไทย โดยเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติเถาหยวน เมื่อวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเดียวกันกับที่เขาทิ้งรถของสามี-ภรรยาคู่นี้เอาไว้ โดยนั่งสายการบินสตาร์ลักซ์ เที่ยวบินที่ JX741 เวลา 10 นาฬิกา40 นาที และถึงไทยเมืองเวลาประมาณ 13 นาฬิกา 30 นาที

ล่าสุด เว็บไซต์ข่าว ไทเป ไทมส์ (Taipei Times) รายงานว่าทางการไต้หวันกำลังประสานงานขอความช่วยเหลือจากทางการไทย เพื่อติดตามตัวผู้ต้องหา เพื่อนำตัวกลับมาดำเนินคดีในไต้หวัน เนื่องจากผู้ต้องหาขณะนี้ถือสัญชาติไตหวันแล้ว

ด้าน พันตำรวจเอกกฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าชายไทยผู้ก่อเหตุเดินทางกลับเข้ามาที่ประเทศไทย ในช่องทางใด เมื่อไร หากพบข้อมูลยินดีให้ความร่วมมือกับทางการไต้หวัน สำหรับคดีนี้กำลังเป็นที่สนใจในไต้หวันเพราะเป็นคดีที่อุกอาจสะเทือนขวัญ ส่วนสาเหตุมีข้อมูลจากข่าวท้องถิ่น สันนิษฐานไว้ว่า อาจเกิดจากความขัดแย้งเรื่องธุรกิจการเงิน เนื่องจากพบข้อมูลว่า ผู้ก่อเหตุ ทำงานกับผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน โดยรับจ้างเป็นล่ามภาษาและได้ยืมเงินไปลงทุนทำธุรกิจปล่อยเงินกู้ให้กับแรงงานชาวไทยด้วยกัน