เบื้องหลังปฎิบัติการบุกจับ “แวมไพร์ผับ” เปิดเกินเวลา-มั่วยา เจ้าของโดนอ่วม 8 ข้อหา

ปฎิบัติการบุกจับสถานบันเทิงทำผิดกฎหมาย โดยข่าว 3 มิติ เข้าร่วมกับชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง พร้อมกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน และเจ้าหน้าที่ กอ.รมน. ที่นำกำลังบุกเข้าไปที่สถานบันเทิงแวมไพร์ผับ ย่านปทุมวัน หลังมีประชาชนและผู้ปกครองร้องเรียน พบว่าผับแห่งนี้ไม่มีใบอนุญาต และฝ่าฝืนมาตรการของศบค. ตั้งอยู่ติดกับโรงเรียน ไม่ตรวจคัดกรองเยาวชน-ลักลอบเปิดให้บริการจนถึงเช้า พบนักเที่ยวบางส่วนมีพฤติกรรมมั่วสุมใช้ยาเสพติด มีปัสสาวะสีม่วงมากถึง 18 คน ในจำนวนนี้มีเยาวชนหญิงอายุ 19 ปี กำลังตั้งครรภ์ ติดตามความคืบหน้าและเบื้องหลังปฏิบัติการครั้งนี้

เที่ยงคืนผับปิดแล้ว แต่ยังไม่อยากกลับ แวมไพร์ผับจึงกลายเป็นที่หมายตาของบรรดานักท่องราตรีทั้งคนไทยและต่างชาติ วงในรู้กันดีว่าที่นี่ไม่ธรรมดา ทางเข้า-ออกลึกลับพรางสายตา เปิดให้ดื่มกินกันได้ยาวๆ จนถึงเช้า โดยพบว่าช่วงเวลาประมาณตีสองคนเริ่มแน่น ทั้งบนโต๊ะโซนเวทีและชั้นลอย สายลับฝ่ายปกครอง พบนักเที่ยวบางส่วนมีพติกรรมใช้ยาเสพติด โดยเฉพาะในห้องน้ำทั้งชาย-หญิง เริ่มเห็นผู้คนจับกลุ่มเปิดประตูเข้า-ออกห้องน้ำพร้อมกัน ครั้งละ 2-3 คน

เวลา 02.15 น. ทีมจู่โจมโดยสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน หรือ อส. กระจายกำลังเข้าปิด-ล้อม ตรวจค้นรอบผับ ระหว่างนั้นพบนักเที่ยวในโซนเต้นส่วนหนึ่ง พยายามดันประตูเพื่อหลบหนี บางคนตัดสินใจทิ้งซองยา-ใช้เท้าขยี้ทำลายหลักฐาน แต่ไม่รอดสายตาของเจ้าหน้าที่ จากการตรวจสอบ พบยาเสพติดทั้งไอซ์ ยาอี และเคตามีน ทั้งที่ห่อในซองและธนบัตร ถูกทิ้งเกลื่อนร้าน นักเที่ยวกว่า 500 คน ถูกแยกชาย-หญิง พบเยาวชนแฝงตัวมาเที่ยวจำนวนหนึ่ง ตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย พบ 18 คน ปัสสาวะม่วง ที่น่าสนใจก็คือ ในจำนวนนี้มีหนึ่งคนเป็นเยาวชนอายุ 19 ปี เธอกำลังตั้งท้องและมีพฤติกรรมใช้สารเสพติด

แวมไพรผับ ตั้งอยู่ในซอย 5 แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน ก่อนหน้านี้มีผู้ปกครองร้องเรียน ทั้งเรื่องการฝ่าฝืนมาตรการควบคุมโรค ผับเถื่อนไม่มีใบอนุญาต และยังตั้งอยู่ติดกับสถานศึกษา เคยถูกสั่งปิด 5 ปี แต่ช่วงหลังกลับพบการเปลี่ยนมือเปลี่ยนผู้บริหารกลับมาเปิดใหม่ และกลายเป็นที่นิยมของกลุ่มนักเที่ยว

ซึ่งฝ่ายปกครอง กรมพินิจฯ รวมทั้ง กอ.รมน. จะเสนอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติสั่งปิด แต่ครั้งนี้ไม่ใช่แค่ 5 ปี แต่เป็นการปิดถาวรและดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นถูกแจ้ง 8 ข้อหา พร้อมเตือนผู้ประกอบการทั่วประเทศ ปฏิบัติตามกฏหมายอย่างเคร่งครัด ทางด้าน สน.ปทุมวัน สั่งปรับนักเที่ยวที่ไม่พกบัตรฯ ส่วนเยาวชนเจ้าหน้าที่ทำบันทึกประวัติและเรียกผู้ปกครองมารับ ส่วนผู้ที่พบสารเสพติดจะส่งไปบำบัด

ล่าสุด มีรายงานว่า พล.ต.ต.สรเสริญ ใช้สถิตย์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 สั่งให้ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จและสั่งย้าย 4 นายตำรวจสน.ปทุมวัน ตั้งแต่ผู้กำกับไปจนถึงระดับสารวัตร ออกจากพื้นที่ชั่วคราว จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง