เบื้องหลัง 3 คนไทยถูกจับที่สหรัฐฯ คดีค้าอาวุธ-ยาเสพติด พบเป็นอดีตนักการเมือง

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา อัยการของสหรัฐอเมริกาและหน่วยป้องกันปราบปรามยาเสพติดสหรัฐหรือดีอีเอ ได้แถลงข่าวถึงผลการจับกุมกลุ่มค้าอาวุธและยาเสพติด ได้ 4 คน โดย 3 คน ถูกเปิดเผยชื่อว่าเป็นคนไทย ทำให้ทางการไทยได้ตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหาทั้ง 3 คน พบว่า 1 ในผู้ต้องหาเคยดำรงตำแหน่งนักการเมืองท้องถิ่น และมีประวัติเชื่อมโยงเกี่ยวกับยาเสพติด

จากการแถลงของอัยการสหรัฐประจำเขตใต้ของรัฐนิวยอร์ก และผู้บริหารแห่งสำนักงานปราบปรามยาเสพติดสาหรัฐหรือดีอีเอ ถึงการจับกุมนายทาเคชิ เอบิซาวะ อายุ 57 ปี สมาชิกแก๊งยากูซ่า , นายสมภพ สิงหสิริ อายุ 58 ปี , นายสมภักดิ์ รักษ์สราณี อายุ 55ปี และนายสุขสันต์ จุลนันท์ หรือบ็อบบี้ อายุ 53 ปี ที่เขตแมนฮันตัน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ในความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และการค้าอาวุธข้ามชาติ

หลังจากสายลับติดต่อกับนายเอบิซาวะ พบเชื่อมโยงกับการค้ายาเสพติดและอาวุธขนาดใหญ่ ตั้งแต่ปี 2562 และเจ้าหน้าที่ดีอีเอยังพบว่านายเอบิซาวะ และนายสมภพ สมคบคิดกันขายไอซ์ 500 กิโลกรัม และเฮโรอีน 500 กิโลกรัม พื่อจำหน่ายในรัฐนิวยอร์ก อีกทั้งยังเคยล่อซื้อยาเสพติด 2 ครั้ง จากนายสมภพ โดยนัดพบกันที่โรงแรมในกรุงเทพ เมื่อเดือนมิถุนายน และเดือนกันยายนปีที่แล้ว

หลังจากในรายงานข่าว มีการอ้างถึงผู้ต้องหาชาวไทย 2คนมียศเป็นทหาร โฆษกกระทรวงกลาโหมได้แถลงยืนยันว่า ไม่พบประวัติผู้ต้องหาเป็นทหารมาก่อน ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้มอบหมายให้พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และพล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัย รอง ผบช.ก. ตรวจสอบประวัติ

มีรายงานว่า ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน มีบ้านในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เดินทางเข้า-ออกประเทศไทย เมื่อปีที่ผ่านมา โดยนายสมภักดิ์ และนายสุขสันต์ เดินทางออกนอกประเทศไปพร้อมกัน ส่วนนายสมภพ เดินทางไปวันรุ่งขึ้น ก่อนจะถูกจับกุมได้ที่เขตแมนฮันตัน ทั้งหมด

ขณะที่ทีมข่าวเดินทางไปบ้านหลังหนึ่งของนายสมภพ หนึ่งในผู้ต้องหา พบว่ามีพี่สาวอยู่เพียงคนเดียว โดยนายสมภพไม่เคยมาบ้านนี้นานแล้ว ในอดีตเคยดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาจังหวัดเขตอำเภอเมืองสกลนคร และเคยลงสมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย แต่ไม่ได้ ส่วนการถูกหหน่วยดีอีเอสหรัฐฯจับนั้น ไม่ทราบรายละเอียดว่าเพราะเหตุใดจึงถูกจับ เชื่อว่าน้องชายถูกหลอกเพราะมีคนโทรหาก่อนที่จะถูกจับ

ส่วนการตรวจสอบประวัติของนายสมภพ ตำรวจพบว่ามีชื่อในกลุ่มเฝ้าระวัง และเคยมีชื่อเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับการจับยาเสพติดอย่างน้อย 2 ครั้ง ในปี 2560 โดยเคยถูกซัดทอดว่าเป็นนายทุน จากการจับยาเสพติดได้ที่ อ.ตากใบ จำนวน 4 แสนเม็ด ในเดือนมิถุนายน และจับยาเสพติดที่ จ.สกลนคร 900 กิโลกรัม ในปีเดียวกัน

ส่วนนายสมภักดิ์ พบข้อมูลว่าเป็นกรรมการบริษัทรักษาความปลอดภัย และผู้ตรวจบัญชี ขณะที่นายสุขสันต์ พบรายงานว่า เป็นกรรมการบริษัทด้านพลังงานและโซล่าเซล

โดยทั้ง 3 คน พบว่าซื้อบ้านจัดสรรอยู่ในกรุงเทพฯ ส่วนเงินในบัญชีของผู้ต้องหาทั้งหมด ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ