สังคม
'แม่แตงโม' เดินหน้าขอผ่าศพรอบ 2 เชื่อแก๊งบนเรือมีคนไม่พูดความจริง
โดย pattraporn_a
14 มี.ค. 2565
66 views
คดีการเสียชีวิตของนางสาวนิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม มีความเคลื่อนไหวสำคัญเกี่ยวกับผลชันสูตรศพ หลังจากครอบครัว และสังคม ตั้งข้อสังเกตุ ตั้งข้อสงสัยมากมาย วันนี้ นางภนิดา ศิริยุทธโยธิน แม่ของแตงโม ได้เข้ารับฟังคำชี้แจงของเจ้าหน้าที่นิติเวช ยืนยันว่า มั่นใจมากขึ้น แต่ยังจะเดินหน้าชันสูตรศพใหม่อีกครั้ง
แม่ของคุณแตงโม นิดา พร้อมทนายความเข้ารับฟังการชี้แจงผลชันสูตรศพคุณแตงโม นิดา โดยทีมแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ นานเกือบ 3 ชั่วโมง นางภนิดา ได้ออกมาเปิดเผยว่า เชื่อมั่นในตำรวจ และรู้สึกสบายใจขึ้นมาก ไม่คาใจประเด็นชันสูตรแล้ว แต่ยังติดใจเรื่องคำให้การของคนทั้ง 5 คนบนเรือ
ด้าน นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความที่ปรึกษา เปิดเผยว่า ส่วนของนิติเวช แพทย์ได้ตอบทุกคำถามแล้ว โดยเฉพาะประเด็นฟันหัก การถูกตีที่ศีรษะ บาดแผลต่างๆ ไม่พบร่องรอยฟันหัก ไม่มีร่องรอยการทำร้ายร่างกาย โดยบาดแผลที่ขาไม่มีลึกไปถึงกระดูก เป็นเพียงเส้นเอ็น และเกิดจากของมีคม แต่ไม่สามารถระบุได้ว่ามาจากสิ่งใด เป็นบาดแผลที่เกิดขึ้นก่อนเสียชีวิต แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าเกิดบนเรือ หรือหลังตกเรือ ส่วนการเน่าเปื่อย ตาถลน ลิ้นจุกปากเป็นไปตามปกติ
การสืบสวนสอบสวน มีคณะตำรวจชั้นผู้ใหญ่ชี้แจงว่าได้สอบปากคำพยานไปเกือบ 100 ปาก กล้องวงจรปิดอีกจำนวนมาก และคลิปต่างๆ ในโซเชียล ตำรวจได้ตรวจสอบทั้งหมด ยกตัวอย่างเช่นคลิปวงจรปิดที่บอกว่ามีการดึงผม หรือตีศีรษะกันบนเรือ ก็เป็นวงจรปิดหลังจากแตงโมตกเรือไปแล้ว จึงไม่ใช่ความจริง ซึ่งคลิปทั้งหมดตำรวจเตรียมนำไปใช้เทคนิคเพิ่มความคมชัด เพื่อให้หลักฐานมีความชัดเจนมากขึ้น
ส่วนขั้นตอนหลังจากนี้ ตำรวจอยู่ระหว่างการรอผลนิติวิทยาศาสตร์ จากกองพิสูจน์หลักฐานอีกกว่า 19 รายการ และหากมีพยานหลักฐานไปถึงใครบนเรือก็จะแจ้งข้อหาเพิ่ม แต่ปัจจุบันยังไม่มีการสรุปคดี ซึ่งตำรวจชี้แจงว่าทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเรือแล้ว และไม่ได้เชื่อปากคำของบุคคลบนเรือทั้งหมด แต่เน้นพยานหลักฐาน ซึ่งยังไม่มีประเด็นเรื่องของการทำร้ายร่างกาย ส่วนประเด็นเรื่องการนั่งปัสสาวะนั้น ยังไม่ขอลงรายละเอียด เพราะเป็นรายละเอียดในสำนวน
อย่างไรก็ตามแม่ของแตงโมยังจะเดินหน้ายื่นเรื่องให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ชันสูตรศพรอบ 2 เพื่อความโปร่งใส และไขข้อข้องใจของสังคม หากผลตรงกันก็ไม่มีปัญหา แต่หากไม่ตรงกัน ก็ขึ้นอยู่กับว่าศาลจะพิจารณาผลตรวจของที่ใด
